โพลจี้ตร.ใช้กม.จัดการเด็ดขาด หยุดชุมนุม!? ขณะ บช.น.แถลงแล้ว ขีดเส้นต้องจบในต.ค.นี้

1847

โพลจี้ตร.ใช้กม.จัดการเด็ดขาด หยุดชุมนุม!? ขณะ บช.น.แถลงแล้ว ขีดเส้นต้องจบในต.ค.นี้

จากกรณีที่วันนี้ (11 ก.ย.64)  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เสียงประชาชนต่อม็อบที่รุนแรง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,002 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 8 – 10 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.0 ระบุ การชุมนุมเริ่มไม่มีความชัดเจนและไม่เห็นมีประโยชน์อะไรต่อส่วนรวม ร้อยละ 96.1 ระบุ มีกลุ่มการเมืองเชื่อมโยงแกนนำ แตกกลุ่มย่อยสาขาชักชวนคนมาเคลื่อนไหว สร้างเงื่อนไขความรุนแรงและขยายผลปั่นกระแสผ่านเครือข่าย

โดย ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.1 ต้องการให้ตำรวจใช้กฎหมายจัดการเด็ดขาด หยุดม็อบรุนแรง ละเมิดคุกคามเบียดเบียนผู้อื่น สร้างความเดือดร้อน ส่งผลผู้ไม่เกี่ยวข้องบาดเจ็บ ทำลายทรัพย์สินส่วนรวม ร้อยละ 97.0 ต้องการให้ฝ่ายความมั่นคงเห็นความสำคัญกับการรักษาความสงบสุขของบ้านเมืองและความปลอดภัยของประชาชนส่วนรวมมากกว่า โดยให้เด็ดขาดจับกุมต้นตอผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุน อาวุธ และปลุกปั่นม็อบ ร้อยละ 96.5 รู้สึกเบื่อหน่ายม็อบปิดพื้นที่และปิดถนนใช้ความรุนแรง สร้างความเดือดร้อนประชาชนรายวัน

ขณะที่อีกร้อยละ 98.0 ระบุ ควรเปิดพื้นที่รับฟัง พูดคุยกับกลุ่มม็อบที่ชุมนุมอย่างสงบ ร่วมแก้วิกฤตชาติในทางสร้างสรรค์ ร้อยละ 97.9 ระบุมีความพยายามใช้ความรุนแรงของม็อบและขยายผลบิดเบือนปั่นกระแสทำลายความรู้สึก ความหวังและความเชื่อมั่นของประชาชน ร้อยละ 97.6 ขอให้กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ หยุดทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ที่ต้องการเห็นการเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ร้อยละ 96.7 สนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้า เปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ภาพรวมโพลสะท้อนชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและเบื่อหน่ายกับการเคลื่อนไหวรวมกลุ่มชุมนุมที่เริ่มไม่มีความชัดเจน มีการแตกกลุ่มสาขาย่อยใช้อาวุธนำสู่ความรุนแรง สร้างเงื่อนไขปั่นกระแสทำลายภาพลักษณ์รัฐบาลและประเทศ สร้างความเดือดร้อนรายวันกระทบประชาชนในพื้นที่และผู้สัญจรไปมา โดยส่วนใหญ่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กฎหมายจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ขณะเดียวกันส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลเปิดพื้นที่รับฟัง พูดคุยร่วมแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจปากท้อง ไม่ต้องการให้ใครมาทำลายความหวังความเชื่อมั่น โดยสนับสนุนและต้องการให้รัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาวิกฤตโควิดอย่างจริงจังและตรงจุด นำสู่การเปิดประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและปากท้องเต็มรูปแบบ

ในขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ว่า ในวันนี้มีการนัดหมายทำกิจกรรม​ทางการเมืองด้วยกัน 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกนัดหมายเวลา 15.00 น. ที่วัดราชบพิธฯ เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกร้องถึงสมเด็จพระสังฆราชฯ, กลุ่มทะลุฟ้า นัดหมายที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.00 น. และกลุ่มสุดท้าย นัดหมายที่บริเวณแยกดินแดง

ส่วนการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) เริ่มจากเส้นทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่ศาลอาญา รัชดาฯ และไปจัดกิจกรรมส่งท้ายที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่แยกดินแดง เมื่อคืนนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีได้หลายคน

สำหรับกรณีมีความพยายามบิดเบือน หลังปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า มีรถยนต์ส่วนบุคคลประสบอุบัติเหตุจากการปฏิบัติยุทธวิธีของตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ที่แยกดินแดง ซึ่งข้อเท็จจริงกรณีนี้เกิดจากมีกลุ่มวัยรุ่นที่ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง วิ่งตัดหน้ารถ จนทำให้รถยนต์คันดังกล่าวประสบอุบัติเหตุ จากนั้นตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมด้วยรถฉีดน้ำจีโน่ จึงเข้าช่วยเหลือและฉีดน้ำ เพื่อไม่ให้ไฟลุกไหม้รถยนต์เสียหาย ซึ่งกรณีนี้ตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายเจ้าของรถยนต์ไว้แล้ว ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมชุมนุมที่แยกดินแดง และวิ่งไปมาบนพื้นผิวจราจร จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ขับขี่รถยนต์สัญจรบนเส้นทางดังกล่าว ตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหากีดขวางการจราจร

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยอมรับว่า ตำรวจจะพยายามควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบริเวณแยกดินแดงให้จบลงโดยเร็วที่สุด แต่บางครั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรง อาจจะทำให้สถานการณ์บานปลาย ซึ่งตำรวจจะพยายามใช้วิธีการที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงผู้ที่ขับขี่รถยนต์ผ่านบริเวณแยกดินแดงได้รับอันตราย ซึ่งทั้งหมดนี้จะพยายามให้เกิดความสงบได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเปิดเผยอีกว่า เตรียมออกหมายเรียกคนขับรถแท็กซี่ที่ขนยางรถยนต์มาส่งในพื้นที่ชุมนุมแยกดินแดง ซึ่งขณะนี้ตำรวจทราบตัวคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวแล้ว