รุนแรงกว่าหลายเท่า!? สลายการชุมนุมสามกีบ เทียบอเมริกา จัดหนักกว่า ขับรถชน ใช้สเปรย์พริกไทย ทุบด้วยกระบอง!?
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม “ม็อบ10สิงหา” ที่บริเวณสามแยกดินแดง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงประมาณ 1 ชม. โดยฝั่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเสริมกำลังเข้ามาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
รวมถึงดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนที่ได้กำหนดเอาไว้ โดยดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งในการชุมนุมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือผู้ชุมนุมที่ออกมาเพื่อต่อต้านรัฐบาล ซึ่งกระทำผิดกฎหมายอยู่แล้วเนื่องจากกฎหมายนนั้นห้ามการชุมนุม กับส่วนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลเหมือนกัน แต่อาศัยจังหวะ เพื่อรอโอกาสก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ มีการใช้อาวุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความสงบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด ในทำนองที่ว่า เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม โดยการใช้แก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยาง รวมไปถึงการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายม็อบ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
ในขณะที่ การสลายการชุมนุมในอเมริกา ขับรถชน ทุบด้วยกระบอง พลักจนล้มลงหัวฟาดพื้นจนสลบ มีการแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และสเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุมด้วย ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับประเทศไทย ถือว่า การสลายการชุมนุมของอเมริกา รุนแรงกว่าประเทศไทยเยอะ ใครว่าเมืองเสรีประชาธิปไตย จะให้เสรีภาพในการแสดงออกได้อย่างอิสระ!! ถ้ามีการปิดถนนคือจัดหนักทันที