“ในหลวง” พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ กว่า 188 ล้าน ถวายสมเด็จพระสังฆราช ซ่อมบำรุงเมรุ-ให้รบ.นำสร้างรพ.สนาม

1943

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญเงินพระราชทาน จำนวน 88,800,000 บาท ไปถวายแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร สมทบทุนแก่วัดต่างๆ ที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย สถานที่กักตัว และที่ฌาปนกิจศพ

จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญเงินพระราชทาน จำนวน 99,900,000 บาท ไปมอบแก่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน สถาบันอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยต่าง ๆ และเหล่าทัพที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย และสถานที่กักตัว ทั่วประเทศ

รวมเป็นเงินที่ได้พระราชทานในครั้งนี้จำนวน 188,700,000 บาท เพื่อใช้ในการจัดหาชุดป้องกันส่วนบุคคล (ชุด PPE) เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ พร้อมทั้งสนับสนุนค่าสาธารณูปโภค ค่าซ่อมแซมปรับปรุงอาคารสถานที่ ค่าบำรุงเมรุ และค่าดำเนินการฌาปนกิจศพ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

วัด สถานศึกษา และเหล่าทัพ ซึ่งกระจายอยู่ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ และหน่วยงานต้นสังกัด จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย และสถานที่กักตัว เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้โปรดให้วัดต่าง ๆ สงเคราะห์ประชาชนในการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ครั้นความดังกล่าวทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินสนับสนุนการดำเนินงานของวัด โรงเรียน สถาบันอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัย และหน่วยงานของเหล่าทัพ ทั่วประเทศ ที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย สถานที่กักตัว และสถานที่ฌาปนกิจศพ เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นส่วนหนึ่งของการบำเพ็ญพระราชกุศล 2 โอกาส คือ

1.พระราชทานเงินสนับสนุนวัด และเหล่าทัพ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564

2.พระราชทานเงินสนับสนุนโรงเรียน สถาบันอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในประเทศไทยหลายพื้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยและได้ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์พระราชทาน

อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ และรถต่อพ่วงชีวนิรภัย พระราชทานแก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้รับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงการตรวจและการรักษาอย่างทันท่วงที โดยตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พระราชทานเงินช่วยเหลือไปแล้ว 1,051 ล้านบาท รวมกับที่ได้พระราชทานในครั้งนี้ เป็นเงินพระราชทานทั้งสิ้นกว่า 1,240 ล้านบาท

ขณะที่ในเฟซบุ๊กของม.จ.จุลเจิม ยุคล ได้โพสต์ข้อความ ไว้ด้วย ระบุว่า “ทรงพระเจริญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯพระราชทานปัจจัยถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช จำนวน 88,800,000 บาท สมทบทุนวัด ตั้งรพ.สนาม-ซ่อมบำรุงเมรุ ” ซึ่งการพระราชทานในส่วนนี้ เป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์