จากกรณีมีภาพเผยแพร่ แชร์กันอย่างมากมายเกี่ยวกับการจัดฉีดวัคซีนพระราชทานให้ประชาชน กับการถือป้าย ทำให้หลายฝ่ายออกมากล่าวถึง และบางฝ่ายอย่างปิยบุตร คณะก้าวหน้าที่ฉวยโอกาสโจมตีสถาบัน ล่าสุดพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ก็ออกมาตั้งข้อสงสัยด้วย
ทั้งนี้นายพงศ์พรหม ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีภาพดังกล่าวว่า “ขอต่อเรื่องการถือป้ายฉีดวัคซีนจากเมื่อคืน
ภาพที่ 1-2 เป็นการฉีดวัคซีนในโครงการเดียวกันในที่อื่นๆ ไม่มีการบังคับประชาชนถือป้าย “วัคซีนพระราชทาน”
ภาพที่ 3 คือภาพที่หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งให้ประชาชนถือป้าย
ภาพที่ 4 คือเพจคุณปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เข้ามารับลูกอย่าง “เต็มตีน” และเกิดการด่าทออย่างต่อเนื่องในโซเชียลมีเดีย
คำถามคือหน่วยงานที่ว่าทำไมถึงทำแบบนี้โดยพลการ ในขณะที่ที่อื่นเค้าไม่ได้ทำ และสังคมต้องช่วยกันหาว่านี่คือหน่วยงานอะไร? รวมถึงราชสำนัก และภาครัฐ ต้องตั้งกฏกติกา ไม่ให้เกิดเหตุการหาเศษหาเลย หรือเอาหน้าโง่ๆแบบนี้อีกด้วยเหตุผลเพื่อป้องกัน
- หน่วยงานโง่ ทำอะไรไม่คิด อยากสอพลอ แบบนี้ควรถูกให้ออกครับ ท่านไม่ qualify ในการทำงานสาธารณะ 2. ตั้งใจ ส่งลูก “เข้าตีน” คนอื่น
ส่วนคอมเม้นต์คุณปิยบุตร ผมขอไม่วิจารณ์มาก
- การที่ท่านไม่เอาสถาบัน ผมถือว่าเป็นสิทธิของท่าน 2. ผมเห็นด้วยกับท่าน ที่หน่วยงานรัฐชอบหากิน เอาหน้า แดกงบโดยอ้างเจ้า บนยันล่าง แม่งทำกันหมด 3. แต่…อย่าเกลียดเจ้า อย่ายุยงแบ่งแยกประเทศโดยอคติ มิฉะนั้นท่านจะไม่แตกต่างอะไรกับทรราชเช่นพลพตของเขมรแดงเลย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายพงศ์พรหม ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีภาพว่า “รบกวนหน่อยครับ เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกตะหงิดๆ เลยโทรไปถามเพื่อนที่ทำโครงการหลวง ได้ข้อมูลมาว่าปกติแล้วไม่เคยให้หน่วยงานมาทำ PR ไร้สาระอะไรแบบนี้ รถแจกฟ้าทะลายโจร ร.10 ก็วิ่งแจกอยู่ตามชุมชนเงียบๆ พร้อมรถตรวจ
องค์อื่นๆที่ทำอยู่ก็พยายามไม่ออกหน้าให้มากที่สุด ฝากเพื่อนๆใน Facebook ช่วยหาให้หน่อยครับว่าหน่วยงานไหน หรือข้าราชการกลุ่มไหนบังคับให้ประชาชนทำแบบนี้ ผมเดาล่วงหน้าว่า “ข้าราชการกลุ่มนี้” ตั้งใจให้เกิดผล “แปลกๆ” ซะด้วยซ้ำ ไม่มีใครไม่รู้หรอกครับ ว่ามันจะสร้างกระแสลบให้สถาบัน”
ต่อมาเมื่อข้อความดังกล่าวของรองหัวหน้าพรรคกล้า เผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น
ศศิน เฉลิมลาภ “ชิ…หายเลย”
Pongprom Yamarat “พังครับ ภายใต้มือข้าราชการไทย ป้ายนี่ ยันกำแพงกันคลื่น บ้าไปหมดแล้ว”
ศศิน เฉลิมลาภ “ดูแลตัวเอง กันครับ แล้วค่อยซ่อมเอา ถ้าใครรอดออกไป”
ให้ข้อมูลท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ เป็นการฉีดวัคซีนพระราชทานที่ จ.ศรีสะเกษ ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำวัคซีนไปมอบ แต่ในส่วนการดำเนินการทั้งหมดคือทางจังหวัด ในส่วนนี้จังหวัดควรต้องแสดงความรับผิดชอบ
ขณะที่ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ติดต่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวไปทางสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอข้อมูลข้อเท็จจริงตามที่มีกระแสพูดถึงภาพดังกล่าวว่าเกิดขึ้นที่จังหวัดศรีสะเกษจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฯที่ยอมรับว่า ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ศรีสะเกษจริง และได้รายงานไปยังผู้บริหารได้รับทราบแล้วถึงกระแสที่มีการพูดถึง โดยต้องรอความชัดเจนก่อน แต่เบื้องต้นผู้บริหารระบุว่า เป็นการแสดงออกถึงความรักสถาบันของคนในพื้นที่