งานนี้มีติดคุกแน่!? “พี่ศรี” บุก สปน.ร้องสอบ 16 องค์กรผู้บริโภค ตั้งขึ้นมาลอยๆ ไม่มีที่อยู่จดแจ้งในสารบบ ส่อเจอโทษหนัก!?
จากกรณีที่วันนี้ (7 กรกฎาคม 2564) เวลา 10.00 น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายทะเบียนกลาง ตาม พรบ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค 2562 หลังจากที่มีเครือข่ายสื่อมวลชนปกป้องผลประโยชน์ชาติ ได้นำข้อมูลการจัดตั้งองค์กรผู้บริโภคจังหวัดต่างๆ 16 องค์กรมาให้เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นที่สงสัยว่าองค์กรเหล่านี้อาจถูกจัดตั้งขึ้นมาลอยๆ หรือไม่ เพื่อให้ครบตามจำนวนเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ จึงได้ทำการสุ่มตรวจสอบองค์กรผู้บริโภคตามบัญชีรายชื่อที่ สปน.ประกาศในระดับจังหวัด ก็พบว่า องค์กรผู้บริโภคที่แจ้งไว้กับทางราชการนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อเลย และเมื่อตรวจสอบเชิงลึกโดยการพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้าน ก็พบว่าหลายองค์กรไม่มีที่ตั้งตามที่แจ้งไว้ หรือไม่มีการทำกิจกรรมตามที่จดแจ้ง ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้จักเลย ซ้ำร้ายกว่านั้นที่อยู่ที่จดแจ้ง ในทะเบียนราษฎร์ไม่มีเลขที่นี้ในสารบบเลย บางองค์กรไม่มีที่ตั้ง ไม่มีคนที่อ้างว่าเป็นประธานเครือข่ายอยู่ในพื้นที่เลย อาจถือได้ว่ามีคุณลักษณะไม่เป็นไปตาม ม.6 ประกอบ ม.5 ของกฎหมายข้างต้น จึงได้ทำบันทึก เก็บหลักฐานทั้งหมดมามอบให้นายทะเบียนกลาง หรือปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในวันนี้
อย่างไรก็ตาม ตาม ม.8 แห่งพรบ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค 2562 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดเห็นว่าองค์กรของผู้บริโภคที่ได้แจ้งไว้ตาม ม.6 มีลักษณะไม่ถูกต้อง ตาม ม.5 ให้มีสิทธิยื่นคำคัดค้านพร้อมทั้งหลักฐานต่อนายทะเบียนกลางได้ เมื่อนายทะเบียนกลางได้รับคำคัดค้านแล้ว ต้องดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว ในกรณีที่เห็นว่าองค์กรของผู้บริโภคนั้นมีลักษณะไม่ถูกต้องตาม ม.5 ให้เพิกถอนการรับแจ้ง พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องและองค์กรของผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องทราบ
นอกจากนั้น หากการสอบข้อเท็จจริงและวินิจฉัยองค์กรผู้บริโภคเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะตามที่กฎหมายบัญญัติ ผู้ที่ร่วมจัดตั้งย่อมเข้าข่าย “แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่รัฐ” ตาม ป.อ.มาตรา 137 ที่บัญญัติไว้ความว่า “ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” สมาคมฯ จึงขอให้นายทะเบียนกลางดำเนินการเอาผิดบุคคลและหรือองค์กรผู้บริโภคนั้น ๆ ตามกฎหมายข้างต้นหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเร็วต่อไปด้วย และถือเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ผ่านมาไม่สมบูรณ์ อาจถือเป็น “โมฆะ” ตามกฎหมาย การทำนิติกรรมใดๆขององค์กรดังกล่าวย่อมเป็นโมฆะและจะกระทำมิได้ด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด