รัฐบาลสหรัฐฯตั้งเป้าไว้ว่า งานฉลองและการแสดงดอกไม้ไฟเนื่องในวันชาติอเมริกา หรือวันประกาศอิสรภาพที่จะมีขึ้นในปีนี้ จะเป็นการประกาศอิสรภาพจากเชื้อโรค ไวรัสโควิด-19 เนื่องในโอกาสที่อเมริกาฟื้นตัวจากการะบาดของโคโรนาไวรัส ความจริงที่ประจักษ์สวนทางคำโฆษณาชวนเชื่อนี้อย่างเจ็บแสบ คนอเมริกันฉีดวัคซีนไม่ถึงเป้าหมาย 70% และไวรัสโควิด-19 สายพันธ์เดลตาทำให้ฝันที่จะกลับมาใช้ชีวิตปกติล่มสลาย มิหนำซ้ำทีมบริหารไบเดนยังออกแคมเปญกระทบความรู้สึกประชาชน ให้ประหยัดงบทำอาหารฉลองวันชาติขณะที่เงินเฟ้อพุ่งน้ำมันแพง ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มทำลายความรู้สึกภาคภูมิใจในคนอเมริกันไม่น้อย
ขณะที่ภายในประเทศปราศจากบรรยากาศชื่นมื่นสดใสรับวันชาติ ภายนอกประเทศรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศจบสงคราม 20 ปีถอนทหารจากอาฟกานิสถาน แต่ไปเคลื่อนไหวยั่วยุสงครามทั้งในทะเลดำและทะเลจีนใต้
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ต้องการให้งานฉลองวันประกาศอิสรภาพ ซึ่งตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ เพื่อฉลองการกลับคืนสู่วิถีปกติหลังจากต้องใช้ชีวิตภายใต้การระบาดของโควิด-19 ตลอด 16 เดือนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า การฉลองในวันชาติปีนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 245 คือการแสดงความยินดีต่อ “ฤดูร้อนแห่งอิสรภาพ” โดยผู้นำสหรัฐฯ มีแผนจะเปิดทำเนียบขาวจัดเลี้ยงให้กับบรรดาบุคลากรด่านหน้าผู้รับมือกับการระบาด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของกองทัพและครอบครัวของพวกเขา และร่วมชมการแสดงดอกไม้ไฟที่บริเวณอนุสาวรีย์กรุงวอชิงตัน คาดว่ามีจะแขกเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้มากกว่า 1,000 คน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานอุทยานแห่งชาติของสหรัฐฯ จะจัดแสดงดอกไม้ไฟเป็นเวลา 17 นาทีตั้งแต่เวลา 21:09 น. ของคืนวันที่ 4 ก.ค. โดยจุดจากทั้งสองด้านของสระน้ำหน้าอนุสรณ์สถานประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น
ทางสำนักงานฯ ยังขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากในระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ รวมทั้งในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น โดยเฉพาะผู้ที่ยังมิได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการรัฐนิวยอร์ก เพิ่งประกาศว่าจะจัดงานแสดงดอกไม้ไฟประจำปีของห้างสรรพสินค้าเมซีย์ อย่างยิ่งใหญ่สมบูรณ์แบบ ในวันที่ 4 ก.ค.ปีนี้ด้วยเช่นกัน
โควิดสายพันธุ์ ‘เดลต้า’ ได้ดับฝันไบเดน ทำผู้ป่วยโควิดในสหรัฐพุ่งรอบใหม่ แม้ว่าปัญหาเริ่มในกลุ่มประชากรที่ฉีดวัคซีนน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่กลุ่มที่ฉีดวีคซีนครบ 2 โดสแล้วก็มีอัตราการกลับมาติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจด้วยประมาทว่ามีภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันจำนวนผู้ติดโควิดสายพันธุ์เดลต้าในสหรัฐคิดเป็น 35.6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ในไม่ช้านี้มันจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดในสหรัฐตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา สถิติผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่แต่ละสัปดาห์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 11,500 คน หรือราว 3.5 ต่อประชากร 100,000 คน
สิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนคือตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในชุมชนที่มีปริมาณการฉีดวัคซีนต่ำ เช่น เมืองสปริงฟิลด์ในรัฐมิสซูรี ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 36.8 รายต่อประชากร 100,000 ราย และมีเพียง 35% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับการฉีดวัคซีน 1 โดสหรือมากกว่า
ตัวอย่างหนึ่งล่าสุดผู้คนในแมสซาชูเซตส์เกือบ 4,000 คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วน มีผลตรวจเป็นบวก ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่แพร่ระบาดทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของรัฐแมสซาชูเซตส์ ณ วันที่ 12 มิ.ย.2564 มีผู้ติดเชื้อ 3,791 รายจากผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 3.7 ล้านคนในรัฐ หรือประมาณ 1 ใน 1,000 คน
ปัจจุบันทั่วทั้งสหรัฐ มีประชากรราว 54% ของจำนวนประชากร 332 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว 1 โดสหรือมากกว่า ในขณะที่ 46.1% ได้รับวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดส