บิ๊กตู่ปลื้ม!?!เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ดีกว่าที่คิด ฟื้นเร็วกว่าที่คาด สศช.ชี้ปี ’64 ขยายตัว 4.5%

1950

นายกฯ รับทราบตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ดีกว่าที่คาด ลดลง 6.0%และปี2564 มีแนวโน้มขยายตัว 3.5-4.5% สศช.มองแม้ยังมีข้อจำกัดของ สถานการณ์ไม่แน่นอนของการระบาดโควิด-19 แต่เห็นสัญญาณค่อยๆฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยและข่าวดีเรื่อง การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด ทั้งนี้นายกฯได้กำชับหน่วยงานเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจอย่างเต็มที่

นายอนุชา บูรพชัยศรี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทย ที่นำเสนอโดยสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2563 ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.4 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 12.1 และหากรวม 9 เดือนแรกของปี 2563 เศรษฐกิจไทยปรับตัวลดลดร้อยละ 6.7 ทั้งนี้การปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจไทยเนื่องมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การกระตุ้นบริโภคภายในประเทศ จากมาตรการ “คนละครึ่ง”, “ช้อปดีมีคืน”, “เที่ยวด้วยกัน” เป็นต้นและจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางภายในประเทศ

การคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของทั้งปี 2563 นั้น สศช. คาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะลดลงร้อยละ 6.0 คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.5 – 4.5 โดยมีแรงสนับสนุนจาก

(1) การปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ

(2) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก

(3) แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐจากการเบิกจ่ายภายใต้กรอบงบประมาณและมาตรการทางเศรษฐกิจ และ

(4) ฐานการขยายตัวที่ต่ำผิดปกติในปี 2563

ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวร้อยละ 4.2 การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 2.4 และร้อยละ 6.6 ตามลำดับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ช่วงร้อยละ 0.7-1.7และดุลบัญชี

ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2564 ได้แก่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศซึ่งอาจมีความยืดหยุ่นและรุนแรงมากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปริมาณการค้าโลก ภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับเงื่อนไขด้านการจ้างงาน และฐานะการเงินภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ รวมทั้งความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้งและความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

นายอนุชา กล่าวว่า “ถึงแม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะบ่งบอกว่าไทยมีแนวโน้มด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ท่านนายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพื่อที่จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น กระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมการจ้างงาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยเหลือลูกหนี้บุคคล และลูกหนี้ธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหนี้ SME และเร่งดำเนินการมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐโดยเร็ว”