ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 8 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดตำแหน่งจ้างงาน “พนักงานราชการเฉพาะกิจ” จำนวน 1 หมื่นอัตรา โดยจะเปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรี จบใหม่ ให้ได้รับเงินเดือน 18,000 บาทต่อเดือน นายกฯย้ำเรื่องนี้สำคัญมาก เร่งให้ 28 ส่วนราชการใน 14 กระทรวง ที่ได้รับจัดสรรอัตราเร่งบรรจุบุคคลเข้าปฏิบัติงานให้เร็วที่สุด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มีงานทำ
กรณีนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เปิดเผยว่า วาระดังกล่าวเป็นของสำนักงานข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงานก.พ. ในชื่อวาระ “ข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลัง และกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)” ซึ่งครม.ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานก.พ.เสนอใน 2 ส่วนคือ
1.เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ และผลการจัดสรรกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 10,000 อัตรา เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
- อนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,254.32 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงานก.พ. ระบุว่า การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการเฉพาะกิจ ให้ยกเว้นการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและการเลือกสรรพนักงานราชการ และแบบสัญญาจ้างของพนักงานราชการ พ.ศ. 2552 เป็นการยกเว้นการดำเนินการตามประกาศฯ เฉพาะในส่วนของข้อ 6 (1) วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในการรับสมัคร เช่น ลักษณะงาน กลุ่มงานตามลักษณะงาน เป็นต้น
โดยมีระยะเวลาของสัญญาจ้างเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะได้สิทธิประกันสังคม และสิทธิอื่นๆ ด้วย เพื่อช่วยให้เกิดการจ้างงานส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทีมโฆษกรัฐบาลจะแถลงรายละเอียดต่อไป
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการจัดสรรกรอบอัตรากำลังและกลไกการบริหารจัดการพนักงานราชการเฉพาะกิจ และผลการจัดสรรกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเฉพาะกิจ จำนวน 1 หมื่นอัตรา พร้อมอนุมัติ วงเงิน 2,254.32 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 ด้วยระบบพนักงานราชการ โดยสรุปรายละเอียดคือ
กรอบอัตรากำลัง
-10,000 อัตรา -เฉพาะในกลุ่มงานบริหารทั่วไป
กลุ่มเป้าหมาย
-ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี
หน่วยงานที่ขอรับจัดสรรอัตรากำลัง
-28 ส่วนราชการ ได้แก่ หน่วยงานในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ระดับจังหวัด หรือหน่วยงานในราชการบริหารส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่เป็นหน่วยปฏิบัติ โดยเป็นส่วนราชการที่มีภารกิจสำคัญและเร่งด่วน
ระยะเวลาการจ้างงาน-ไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจ้างหรือไม่เกิน 30 กันยายน 2565 และไม่มีการต่อสัญญา
อัตราค่าตอบแทน/สิทธิประโยชน์
-18,000 บาท/เดือน ตลอดสัญญาการจ้างงาน
-โดยได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับพนักงานราชการปกติ
-ยกเว้นเฉพาะในส่วนของสิทธิการลงเพื่อไปอุปสมบท หรือประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 120 วัน
นายอนุชา ฯ กล่าวว่า“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังย้ำให้หน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอน วิธีดำเนินการจ้างพนักงานราชการ และแผนการดำเนินงาน รวมทั้ง เร่งดำเนินการจ้างพนักงานราชการเฉพาะกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564 โดยคำนึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ซึ่งสำนักงาน ก.พ. จะได้ติดตามประเมินผลการดำเนินการรวมถึงผลสัมฤทธิ์จากการจ้าง เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีทราบต่อไปด้วย”