ปล่อยผ่านได้อย่างไร!! “วินิจ” นายใหญ่ THE STANDARD รับงานเทิดพระเกียรติเพียบ แต่กลับปล่อยลูกน้อง ผลิตสื่อหมิ่นเหม่!?

2800

หลังจากมติที่ประชุมสภาฯ ได้ลงรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 65 โดยเมื่อเวลา 23.41 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กดออดเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อให้แสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวาระแรกว่าจะรับหลักการหรือไม่ ภายหลังการลงมติเสร็จสิ้นผลเป็นดังนี้

จำนวนผู้ลงมติ 471
เห็นด้วย 268
ไม่เห็นด้วย 201
งดออกเสียง 2
ไม่ลงคะแนน 0

จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวนทั้งหมด 72 คน และเห็นชอบแปรญัตติเป็นระยะเวลา 30 วัน ก่อนจะปิดประชุมสภาฯ

ทั้งนี้ในช่วงที่มีการอภิปราย ทางด้านเบญจา แสงจันทร์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้พูดถึงงบสถาบันฯ ในปี 2565 และกล่าวว่าต้องปฏิรูปงบที่เกี่ยวกับสถาบันฯ เพื่อไม่ถูกนำไปแอบอ้าง กระทบพระเกียรติยศ รวมทั้งกล่าวว่า “ต้องย้ำก่อนว่า เงินจำนวนสามหมื่นกว่าล้านนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ประเด็นคือผลผลิตของการตั้งงบประมาณ และประสิทธิภาพของโครงการที่ควรจะมีการพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ เหมาะสม เปิดเผย โปร่งใส ถูกต้อง และตรวจสอบได้ เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดนั้นตกเป็นของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจตกต่ำจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้”

จนต่อมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงงบสถาบันฯ ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ซึ่งได้มีการชี้แจงจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า งบในส่วนนี้ถูกตัดลงไปด้วยเช่นกัน ขณะที่ทางด้านดร.อานนท์ ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า “เบญจา ส.ส. พรรคก้าวไกล กำลังโกหกด้วยสถิติ ในการอภิปรายงบประมาณแผ่นดิน เดี๋ยวผมจะออกคลิปวีดีโอโต้ อันนี้สมัยประชาไท โกหกด้วยสถิติเกี่ยวกับงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ดูอันนี้ก่อน รับรองฉลาดขึ้น จับเท็จ นางสาวเบญจาได้อย่างแน่นอน”

และทางเว็บไซต์ของ THE STANDARD ได้มีการนำเสนอข่าวของ “เบญจา ส.ส. พรรคก้าวไกล” และเรื่องงบประมาณของสถาบันฯอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงรูปแบบการนำเสนอ วิสัยทัศน์ รวมถึงเบื้องหลังของผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่แท้จริง มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานที่เชื่อมโยงต่อสถาบันฯ อย่างชัดเจน นั่นก็คือ ตัวของ นายวินิจ เลิศรัตนชัย ที่มีรายงานจากข้อมูลปี พ.ศ. 2560 มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นคือ วินิจ เลิศรัตนชัย ถือหุ้นร้อยละ 45 เยอะสุดใน THE STANDARD

โดยประวัติของ นายวินิจ เลิศรัตนชัย ปัจจุบันนั้น เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทออแกไนซ์อันดับต้นๆของประเทศไทย ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและผู้สร้างปรากฏการณ์อีเว้นท์ระดับเอเชียเลยก็ว่าได้ โดยมีผลงานการแสดงที่เด่น ๆ เช่น การจัดคอนเสิร์ตเทศกาลฤดูหนาวบนพื้นที่เขาใหญ่ งานแสดงแสงสีเสียง “พ่อ…The Greatest of the Kings The Greetings of the Land” ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม งานแสดงแสง สี เสียง เนื่องในพิธีเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์และสะพานภูมิพล งานแสดงเรือไฟเฉลิมพระเกียรติและจุดเทียนชัยถวายพระพรกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 5 ธันวาคม 2553 งานแสดงละครเพลงเฉลิมพระเกียรติ “พระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์” ภาพยนตร์แอนิเมชัน “คุณทองแดง ดิ อินสไปเรชันส์” และ “มหกรรมดนตรี 30 ปี คาราบาว” เป็นต้น (อ้างอิงจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย)

ซึ่งในการจัดแสดงพระมหาชนก เดอะฟีโนมีนอน ไลฟ์ โชว์ ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2557 และเปิดให้ชมฟรีเป็นเวลา 9 วัน 9 รอบ จำนวน 10,000 ที่นั่ง แน่นอนว่า มีชื่อของนายวินิจ อยู่ในการจัดงานครั้งนี้ด้วย และเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า งานครั้งนี้ได้นำบทพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แฝงไปด้วยปรัชญาแห่งคุณธรรม ความเพียร ความวิริยะอุตสาหะและการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการศึกษาและเรียนรู้อย่างกว้างขวางและแพร่หลาย ซึ่งประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ได้รับชมการแสดง จะได้สัมผัสถึงความรัก ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ ความอดทนและความเพียรพยายามของพระมหาชนก และน้อมนำหลักธรรมคำสอน ไปเป็นหลักในการดำเนินชีวิตรวมถึงเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา ในปี 2557

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าตั้งคำถามต่อว่า ในส่วนการจัดแสดงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯนั้น ผู้จัดงาน บริษัทออแกไนซ์ ใช้งบในส่วนไหน ของรัฐบาลจัดสรรให้ หรือเกี่ยวข้องกับงบของสถาบันฯ ที่ต้องนำมาจัดการแสดง เตรียมงาน และจ้างนักแสดงต่าง ๆ ซึ่งล้วนต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของสื่อดัง ได้ทำงานใกล้ชิดกับสถาบันฯ เหตุใดถึงปล่อยให้สื่อของตนเอง มีการนำเสนอข่าวในเชิงโจมตีสถาบันฯเกิดขึ้น