DES ลุยสอบแอคแคปเข้าข่ายเฟคนิวส์หรือไม่ให้ข้อมูลเท็จ ยันรบ.คุยผู้ผลิตโดยตรงไม่มีนายหน้า

1917

จากที่โลกโซเชียลฯ เผยแพร่จดหมายจาก บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ในฐานะพันธมิตรผู้เดียวในประเทศไทย ของบริษัท TELLUS AGROTECH PTE. LTD ผู้จัดจำหน่ายวัคซีน ซิโนฟาร์ม ในภูมิภาคเอเชียนั้น

ทั้งนี้โดยอ้างว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมา บริษัทไม่สามารถเข้าถึงหรือเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปนำเสนอวัคซีนได้ ภายหลังพบว่าบริษัทดังกล่าว จดทะเบียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีนายกรกฤษณ์ กิติสิน และ นายศวิษฐ์ อุทัยเฉลิม เป็นกรรมการบริษัท

ต่อมา ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ระบุว่า ล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda เห็นหนังสือนี้ร่อนไปทั่วบนระบบออนไลน์โดยที่ คนที่หนังสือนี้ส่งถึงยังไม่ได้เห็นหนังสือตัวเป็นๆเลย อย่างไรก็ดีถึงจะมาพบก็คิดว่าคงไม่ได้พบเหมือนกัน เพราะจากที่พยายามช่วยหาวัคซีน”ตัวเลือก”มาเพิ่มเติมระยะหนึ่งนั้น มีบริษัทหรือกลุ่มคนมากมายที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของวัคซีนโน้นวัคซีนนี้ มากกว่าสิบกลุ่ม ขอเรียนให้คนที่เห็นหนังสือนี้เข้าใจกันตามนี้ครับ

1)กลุ่มหรือบริษัทแบบนี้ที่ว่าเป็นตัวแทนนั้นเป็นไปได้ยาก 2)การเป็นตัวแทนใครในการนำยาหรือวัคซีนจริงต้องได้รับ dossier(รายละเอียดรายการประกอบยาและการผลิต)จากบริษัทเจ้าของเพื่อมาใช้ขอใบอนุญาตจาก อย.  3)บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิดขณะนี้ จะติดต่อกับรัฐบาลหรือตัวแทนรัฐบาลก่อนเท่านั้น เป็นเหมือนกันทุกบริษัททั่วโลกเพราะเป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน จะไม่ติดต่อกับเอกชนเป็นรายๆหรือติดต่อคุยด้วยก็จะไม่ให้ dossier เพื่อยื่นขอใบอนุญาต

4)รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐบาลเมื่อติดต่อแล้วจึงอาจมอบหมายให้บริษัทที่ทำโลจิสติกเรื่องการขนส่งและเก็บวัคซีนที่มีมาตรฐานเฉพาะเป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนและทำการขนส่งแทนหน่วยงานรัฐได้ 5)บริษัทหรือกลุ่มตัวแทนใดที่ว่าเป็นตัวแทนหรือมีวัคซีนเป็นล้านๆโดสโดยไม่มี dossier ที่ต้นทางจัดให้ ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์ครับ คงไม่ได้พบผมเช่นกัน

ล่าสุดวันนี้ 28 พฤษภาคม 2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึง บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด ระบุติดต่อตัวแทนรัฐบาลเพื่อขอนำเข้าวัคซีนชิโนฟาร์ม 20 ล้านโดส แต่ทางรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แบบนี้ถือเป็นเฟคนิวส์ต้องดำเนินการอะไรอย่างไรหรือไม่

“เรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรเป็นข่าวปลอมหรือไม่ คงต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาให้ข้อเท็จจริง ถ้าเป็นการให้ข้อมูลเท็จแล้วทำให้ประชาชนสับสนก็จะเข้าข่ายเฟคนิวส์มีความผิด หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายก็ต้องร้องเข้ามา

ดังนั้นขณะนี้ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับข่าวที่ออกมา ขอให้รับความจริงอย่างรอบด้าน เพราะตอนนี้รัฐบาลพยายามหาทางนำเข้าวัคซีนโควิดอยู่แล้ว ส่วนเอกชนรายใดจะสามารถนำเข้าได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกชนรายนั้นๆที่ต้องยื่นขอนำเข้าตามช่องทางที่มีอยู่”

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์นั้น เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่ปล่อยให้มีคนมาหาประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ได้ ที่ผ่านมารัฐบาลก็ติดต่อผู้ผลิตโดยตรงไม่ผ่านนายหน้า และวัคซีนเป็นที่ต้องการของตลาดจึงไม่มีความจำเป็นที่ผู้ผลิตต้องใช้นายหน้าในการวิ่งขายวัคซีน จึงเชื่อว่าไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ตามข่าวที่ออกมา