จากการที่หมอเหรียญทอง แน่นหนา ได้สร้างโรงพยาบาลสนาม ขนาด 200 เตียงตั้งอยู่บนสนามหญ้าจริง ติดกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เป็นเต็นท์ที่ครอบสนามติดแอร์ และเดินท่อระบบ ไฟฟ้า , ออกซิเจน เพื่อใช้กับเครื่องมือแพทย์ได้นั้น
ทั้งนี้สำหรับโรงพยาบาลดังกล่าว โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจ เพื่อรับผู้ป่วยหนักหรือกลุ่ม สีแดง โดยหมอเหรียญทอง ใช้เวลา 12 วันกับการทำให้แบบแปลน โรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน ได้กลายเป็นจริง โรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 เฉพาะผู้ป่วยโรคติดเชื้อ
ล่าสุดวันนี้ 22 พฤษภาคม 2564 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพถึงเหตุการณ์การช่วยเหลือที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดรายแรกว่า
“การผ่าตัดรายที่ 1 ณ ห้องผ่าตัดสนาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน เมื่อเช้าวันนี้ 22 พ.ค.64 เวลา 11.09 น.โดย สูติแพทย์ วิสัญญีแพทย์ กุมารแพทย์ และพยาบาลห้องผ่าตัด รพ.สนามพลังแผ่นดิน (บุคลากรจากต้นสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะ) ได้ทำการผ่าตัดคลอดให้แก่หญิงตั้งครรภ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนอายุ 34 ปีที่ทำงานในราชอาณาจักรไทย ณ ห้องผ่าตัดสนาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน ผลการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อย ปลอดภัยทั้งมารดาและทารกเพศชายครับ
หลังผ่าตัด รพ.สนามพลังแผ่นดิน ได้ส่งต่อทารกเพศชายเข้าสู่ห้องคัดแยกทารกติดเชื้อ หน่วยกุมารเวชศาสตร์ปริกำเนิด รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว
ส่วนมารดายังต้องสังเกตุอาการหลังการผ่าตัด ตลอดจนต้องรอผลการวินิจฉัยการติดเชื้อโควิด-19 หากมารดาติดเชื้อโควิด-19 ก็จะถูกกักกันเพื่อการรักษาตัวใน รพ.สนามพลังแผ่นดินต่อไป หากผลการตรวจหาเชื้อไม่พบโควิด-19 รพ.สนามพลังแผ่นดินก็จะส่งกลับมารดาไปยัง รพ.มงกุฎวัฒนะครับ
นี่คือกรณีผู้ป่วยที่ต้องสงสัยและอยู่ในระหว่างรอผลการวินิจฉัยโควิด-19 แต่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ณ ห้องผ่าตัดสนาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน…นี่คือขีดความสามารถของ รพ.สนาม ระดับ 3 ที่แตกต่างจาก รพ.สนามทั่วไปที่เป็น ระดับ 1 ภาพจากกรณีผ่าตัดคลอดจริง ณ รพ.สนามพลังแผ่นดิน เมื่อ 22 พ.ค.64 ระหว่าง 11.00 – 12.00 น.”
ต่อมาเมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกมาทำให้คนได้เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับผลสำเร็จที่เกิดขึ้นเบื้องต้นต่อโรงพยาบาล รวมทั้งยังเหตุการณ์จนนำมาซึ่งเรียกว่า ดราม่าขึ้นด้วย เมื่อปรากฏมีคนเข้ามาถามถึงค่าใช้จ่าย และภาษีในการผ่าตัดรายแรกนี้ เช่น
กรณีนี้ ใครจ่ายเงินคะ..ไม่อยากให้ใช้ภาษีของเราค่ะ
เหรียญทอง แน่นหนา เสื้อเหลือง รักชาติ …ประกันสุขภาพส่วนตัวของผู้ป่วยเป็นผู้จ่าย ไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐครับ
ทำงานในราชอาณาจักรไทย สร้างรายได้ในประเทศไทย = เสียภาษีให้ประเทศไทย มากกว่าคนไทยบางคนที่ออกมาเรียกร้องจาก vat 7 % เสียอีก(ถ้าทำงานแบบถูกกฎหมายนะครับ)
โอ้ยแทนที่จะห่วงเขาว่าเป็นไงบ้างปลอดภัยไหมกลับถามเรื่องภาษี ในอดีตถึงปัจจุบันคนไทยเรามีน้ำใจเสมอคราบ
คนต่างชาติที่มาทำงานในไทยก็สร้างรายได้/เสียภาษีให้ประเทศไทยเหมือนกัน ควร คิดให้รอบด้านกว่านี้
ต้องทำความเข้าใจกับการเจ็บไข้ได้ป่วยของต่างด้าวกันนะคะ. มีการจัดเก็บจากแรงงานต่างด้าวในกรณีเข้าทำงานในประเทศไทย กรณีเจ็บป่วยก็ใช้กองทุนนั้นมาจ่าย เหมือนกับที่แรงงานทำประกันสังคม เจ็บป่วยประกันสังคมจ่าย
ถ้าคนจีนมาถ่ายช่วงนั้นพอดี คงมีความประทับใจ แก่ชาวจีนทั่วไปอย่างมาก ขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะคุณหมอครับ
คนจีนคงดีใจที่รพ.สนามแห่งนี้ได้ให้ความช่วยเหลือคนของเค้าด้วย
เห็นด้วยค่ะถ้าเขาทำงานโดยเข้ามาถูกกฎหมายเขาก็มีส่วนจ่ายภาษีแต่กรณีนี้เขามีประกันอยู่ คนจีนดีๆมีเยอะคนไทยดีๆมีเยอะ พี่น้องกัน