ดร.อานนท์ จับ”พิมรี่พาย” ร่อนตะแกง! เห็นหมดสุดโล่งโจ้ง แค่แม่ค้าเหยียบเรือสองฝั่ง ปั่นเรทติ้ง ชิงพื้นที่ข่าวขายของ!

10522

ดร.อานนท์ จับ”พิมรี่พาย” ร่อนตะแกง! เห็นหมดสุดโล่งโจ้ง แค่แม่ค้าเหยียบเรือสองฝั่ง ปั่นเรทติ้ง ชิงพื้นที่ข่าวขายของ!

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ CARE Clubhouse x CARE Talk โดยในบางช่วงบางตอน นายทักษิณ กล่าวว่า ภายในเรือนจำเขามีสนามฟุตบอล มีโรงอาหาร เราสามารถเปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวได้หรือไม่ หรือถ้าตั้ง (โรงพยาบาลสนาม) มันแพง ก็ไปขอ พิมรี่พาย ตั้งให้ จากนั้น พิมรี่พายได้ออกมาโต้กลับอย่างเดือดว่า อย่าเอาตนไปเป็นเครื่องมือเหน็บแนมใคร ดิฉันอยากอยู่ในประเทศนะคะ ดิฉันไม่อยากจะไปตายที่ต่างประเทศ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ก็ได้ออกมาบอกว่า พิมรี่พายมีความกล้าหาญ และบอกว่า หมดเวลาสำหรับทักษิณแล้ว

และต่อมาพิมรี่พาย ก็ได้ออกมาขอโทษทักษิณ พร้อมกับด่ากราดหมอวรงค์ ว่า ท่านเป็นหมอจริงหรือเปล่าคะ หรือว่าท่านเรียนมาเป็นหมอ แต่แก่ไปเป็นหมาคะ ท่านเลียดิฉันเก่งมาก ถ้าดิฉันกล้าหาญตามที่ท่านพูดจริง ทำไมตอนนี้ดิฉัน ทำไมตอนที่ดิฉันทำโซล่าเซลล์ ขุดบ่อบาดาล ดิฉันติดไฟคลองเตย ทำเตียงสนาม ทำไมท่านไม่ชมดิฉันกล้าหาญบ้างหล่ะคะ

ล่าสุดทางด้าน ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พาย โดยระบุข้อความว่า

กลยุทธ์แม่ค้างูพิษหาเรทติ้งพื้นที่ข่าวให้ขายของได้
หนึ่ง ทำตัวให้เด่นดัง แตกต่าง เริ่มตั้งแต่แต่งตัวเด่นแปลกตา แต่งหน้าจัด
สอง สร้างกระแสข่าวไม่หยุดหย่อน เช่น การทำบุญเอาหน้า เพื่อเป็นการเรียกเรทติ้ง และกระทบกระเทียบแดกดัน เพื่อให้ตัวเองมีความแปลก ความคูล ความเก๋ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไร แต่ทำให้เป็นข่าวชนิดที่เรียกว่า หมากัดคนไม่เป็นข่าว คนกัดหมาเป็นข่าว
สาม ออกมาด่าทุกฝั่ง ด่าฝั่งนั้นที ฝั่งนี้ที เพื่อให้มีพื้นที่ข่าวให้มากที่สุด จริงๆ อาจจะมีฝั่งที่ตัวเองเลือก แต่การเหยียบเรือสองฝั่งสลับไปมาทำให้ชิงพื้นที่ข่าวได้มากที่สุด
สี่ ใช้คำพูดรุนแรง ตลาดล่าง เพราะคนไทยชอบคำพูดหยาบคาย ระดับล่าง ที่เป็น target market ของเธอ เธอไม่ได้ขายของตลาดบน การใช้คำพูดแรงๆ มันได้แรงอก ได้แรงใจจากคนระดับเดียวกันที่เป็นฐานลูกค้าของเธอ
ห้า ทะเลาะเบาะแว้งกับคนโน้นที คนนี้ที คนไทยชอบดูคนทะเลาะกันมากที่สุด ไทยมุงบนโลกออนไลน์ เวลาคนโต้กันไปมา สนุกสนานกันมาก เธอเข้าใจนิสัยไทยมุงชอบยุ่งเรื่องคนตีกัน ไม่ว่าจะไปทางไหน เธอไม่ได้มีต้นทุนทางสังคมอะไร ก็แม่ค้าปากตลาดบนโลกออนไลน์ ใครมามุงดูเธอทะเลาะกันตีกันบนโลกออนไลน์ เธอก็ขายของได้ทั้งนั้น
รวมๆ คือ ไม่น่าสนใจอะไร ถ้ามีสติปัญญา เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องสนใจ ไม่ต้องนำเสนอข่าว ไม่ให้เธอมีพื้นที่ข่าว เพราะนั่นคือสิ่งที่เธออยากได้ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ข่าวในทางดีหรือทางเลว เธอเอาหมด เพราะทำให้เธอขายของได้ หาเงินได้ ก็แค่นั้นเองครับ