หลังจากที่ทางด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการชุมนุมใน 2 พื้นที่หลัก บริเวณแยกดินแดง และแยกนางเลิ้ง ว่ายังคงมีการนัดชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า
โดยคาดอีกไม่กี่วันจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้น หลังมีการประสานหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่น ๆ ควบคู่กับการปรับยุทธวิธีให้เข้ากับสถานการณ์ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้คำแนะนำกับ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. ว่าที่ ผบช.น.คนใหม่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง และยืนยันว่า ตำรวจสามารถควบคุมได้ ยังไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปัจจุบันมีคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม 236 คดี มีผู้อยู่ในข่ายจะต้องถูกดำเนินคดี 878 คน สามารถจับได้แล้ว 633 คน
ขณะที่วานนี้ (29 ก.ย.) ที่แยกนางเลิ้ง กลุ่มทะลุฟ้ายังคงนัดมวลชนทำกิจกรรมเพื่อเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่งโดยไม่มีเงื่อนไข ดั่งเช่นหลายวันที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลานัดหมายเวลา 16.30 น. มวลชนบางส่วนได้เข้าพื้นที่ทำกิจกรรมฉีดพ่นสีตามพื้นถนน ปราศรัยโจมตีการทำงานรัฐบาล และกลุ่มทะลุฟ้าได้นำจรวดขวดน้ำตอบโต้ใส่เจ้าหน้าที่ จนทางเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดการกระทำ ห้ามทำลายทรัพย์สินของราชการ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยังคงฝ่าฝืนและจะฝ่าแนวกั้นเข้ามา
ทั้งนี้เพจเฟซบุ๊กทะลุฟ้า – thalufah ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า รถจีโน่เริ่มฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ทะลุฟ้าขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐหยุดใช้ความรุนแรง เนื่องจากมีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ร่วมชุมนุม อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่กลุ่มทะลุฟ้าออกมาโพสต์ข้อความนี้ เป็นการยืนยันว่ามีการพาเด็กเข้ามาในม็อบ และอาจจะใช้เด็กเป็นฐานหน้า บังแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งในเย็นนี้กลุ่มทะลุฟ้าก็ประกาศจะออกมารวมตัวเช่นเดิม และยึดจุดเดิมที่แยกนางเลิ้ง พร้อมทั้งประกาศขอระดมทุนในการออกมาร่วมตัว ทั้งเงินสนับสนุนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย