กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยให้เกษตรกร!?!เปิดเกณฑ์กู้ใหม่เพิ่มวงเงินอีก 810 ล้านบาท หนี้เก่าพักชำระ

1513

กรมส่งเสริมสหกรณ์ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมติอนุมัติเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 810 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มเกษตรกร 1,700 แห่งทั่วประเทศ บรรเทาโควิด ขยายชำระหนี้คืนถึง 30 เม.ย.2565 ใครกู้ใหม่คงสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยเอาไว้ใช้จ่ายและลงทุนทำเกษตร

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 จัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน ในการผลิตและการตลาด วงเงิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย กำหนดผ่อนชำระหนี้คืนภายใน 5 ปี (พ.ศ.2559-2564) เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรได้กู้ยืมไปเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและจัดหาปัจจัยการผลิต อาทิ ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อบริการแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิก

 

โดยผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวมีกลุ่มเกษตรกรที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรแล้ว 1,700 กลุ่ม เป็นเงินจำนวนปีละ 700 ล้านบาท และในปี 2563 ได้มีการขยายเวลาชำระหนี้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า-19 จำนวน 300 กลุ่ม เป็นเงิน 159.73 ล้านบาท

เมื่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ยังคงต่อเนื่องถึงปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดระยะเวลาในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทางคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร จึงได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาดออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 30 เมษายน 2565 และกำหนดวงเงินกู้ยืมในการดำเนินโครงการในช่วงที่มีการขยายเวลาอีกเป็นเงิน 810 ล้านบาท

ได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการอนุมัติเงินกู้ยืม และการขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้กับกลุ่มเกษตรกร โดยมีคณะกรรมการพิจารณาเงินกู้ฯระดับจังหวัด ร่วมกันพิจารณาการขอกู้เงินกู้ยืม และการขอขยายระยะเวลาชำระหนี้คืนของกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในแต่ละจังหวัด

 

พร้อมทั้งมีการติดตามการใช้เงินกู้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรได้มีเงินทุนหมุนเวียนและพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจจากเงินทุนปลอดดอกเบี้ย พร้อมทั้งดูแลช่วยเหลือสมาชิก โดยจัดสรรให้สมาชิกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพทำการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สมาชิกสหกรณ์ทุกประเภทที่ได้รับผลกระทบ ทั้งสมาชิกสหกรณ์ในภาคการเกษตร ที่เป็นเกษตรกรส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบในด้านการจำหน่ายพืชผลการเกษตร ซึ่งตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอาจจะมีการชะลอตัว ส่วนสมาชิกสหกรณ์นอกภาคการเกษตร ซึ่งมีหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการต่าง ๆ มีสมาชิกเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเงินเดือน เงินทำงานล่วงเวลาลดลง สหกรณ์บริการ เช่น กลุ่มผู้ขับแท็กซี่ สามล้อ หรือในสหกรณ์ร้านค้า ซึ่งอาจจะมีลูกค้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าน้อยลงกว่าปกติ

ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) กว่า 300 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์ที่ขาดสภาพคล่องกู้ไปช่วยเหลือสมาชิก เพื่อให้สมาชิกนำไปประกอบอาชีพที่จะช่วยสร้างรายได้ในระยะเวลาสั้น ๆ นอกจากนี้ สหกรณ์ยังสามารถขอเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์เพื่อนำไปจัดตั้งกลุ่มอาชีพผลิตหรือต่อยอดสินค้าเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มด้วย