อดีตทีมประเมิน ThaiPBS ยังเอือม เผยชัด นักข่าวมีพฤติกรรมแปลกๆ ปล่อยเฟคนิวส์ถี่

2009

ขอระบายความในใจ!! อดีตทีมประเมิน ThaiPBS ยังเอือม เผยชัด นักข่าวมีพฤติกรรมแปลกๆ ปล่อยเฟคนิวส์ถี่ จี้ไล่ออกทันที!?

จากกรณีที่ทางด้านของ ThaiPBS ได้ทำการปล่อยข่าวปลอมอยู่บ่อยครั้งและต่อเนื่อง อีกทั้งคนที่ปล่อยข่าวปลอมซ้ำๆนั้น เป็นถึงระดับ “ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว” ซึ่งใช้ชื่อในโลกโซเชียลว่า “กะทิ จ้า” พร้อมกับยังได้มีการโพสต์ข้อความโจมตีรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง จึงค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้บริหารระดับสูงของ ThaiPBS ที่เรียกตัวเองว่าสื่อสาธารณะไม่ได้มีความเป็นกลางแต่อย่างใด

ซึ่งล่าสุดทางด้านของ ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว คนดังกล่าวได้ถูกตั้งกรรมการสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ออกหนังสือชี้แจงขอโทษ ทั้งที่เป็นการกระทำผิดซึ่งไม่น่าให้อภัย

ล่าสุดทางด้านของ นายพรชัย มาระเนตร์ กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคกล้า ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัว ในฐานะอดีตทีมประเมิน ThaiPBS ว่าสำนักข่าวนี้เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เคยมีโอกาสอยู่ในทีมประเมิน ThaiPBS
ตอนนั้นเป็นยุคเค้ากำลังตัดสินใจขยาย Platform เป็นออนไลน์ ซึ่งมีคำแนะนำว่า ข่าวออนไลน์ต้องเร็ว เพื่อแข่งขันกับเจ้าอื่น

คนข่าว ThaiPBS บอกว่าถ้าเป็นข่าวเดียวกับที่ต้องออกอากาศยังไงอาจช้ากว่าคนอื่น เพราะต้องมีการตรวจสอบก่อนออกอากาศ
ก็เห็นเป็นวัฒนธรรมที่ดี และคิดว่าก็เป็นจุดยืนที่เป็นจุดขายในยุค Fake news ได้
หลังๆก็เห็นว่า platform online ของ ThaiPBS ได้ปรับให้ดีและเร็วขึ้น ด้วยการมีข่าวเฉพาะของตัว Platform มากขึ้น.

แต่ช่วงนี้ ThaiPBS เจอปัญหาการเสนอข่าวที่ไม่ได้ตรวจสอบ ตอนได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกก็คิดว่าน่าจะพลาด แต่พอมีอีกครั้งในเวลาไม่นานแม้จะเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของพนักงานและไม่มีการนำเสนอข่าวจากทาง ThaiPBS ก็เริ่มคิดว่าชักจะแปลกๆ
จุดอ่อนจากความมักง่ายในการเอาข้อมูลจาก Social network มาเป็นข่าวเลย ของสำนักข่าวทั้งหลายในสมัยนี้ ชักปรากฏชัด
สำคัญที่สุดคือเป็นเหยื่อของ Fake news ปั่นดราม่าให้เกิดกับคนในสังคม บางทีก็พอรู้แหละว่าปลอมแต่ถ้าลงไปคนมันต้องมาทะเลาะกันในเพจ กลายว่ากระแสดีซะงั้น

Fake news เกิดได้อย่างไร ตอบยาก
บางคนกินข้าวแล้วไม่ทีอะไรทำคิดมโนไปเรื่อย ตั้งสมมุติฐานบนตรรกะเพี้ยนๆ กลัวคนไม่เชื่อก็ปั้นหลักฐานเท็จกุข่าว สนับสนุนมโนนั้นไปเรื่อย แบบเค้าเล่าว่า ป้าข้างบ้านบอก
แต่ที่น่ากลัวคือ คนที่ปั้นเรื่องจากอคติ และความเกลียดชัง พอจิตใจถูกบดบังด้วยอคติ ก็เพียรพยายามหาวิธีทำลาย ขัดขวาง ปล่อยข่าว ปั้นเรื่องเพื่อสำเร็จความใคร่ทางอารมณ์

คนพวกนี้ยิ่งอยู่ในแวดวงสื่อสาร รู้ขบวนการขั้นตอนการกระจายของข่าวยิ่งน่ากลัว กลายเป็นสื่อเลือกข้างโจมตีข้างที่ไม่ชอบด้วยเครดิตจากงานของตัว
ในยุคที่ข้อมูลท่วม google แทนที่ชีวิตจะดีขึ้นเร็วขึ้นสะดวกขึ้น กลายเป็นต้องคิดมากขึ้นระวังมากขึ้นไตร่ตรองหลายๆชั้น ปวดหัวไปอีก

ถึงตอนนี้อยากเห็น ThaiPBS แสดงความรับผิดชอบที่รวดเร็วสมยุค Digital การพิสูจน์ความผิด แล้วให้พนักงานออกเลย แม้ต้องเสี่ยงค้าความในศาลแรงงาน แต่ก็ยังคุ้มในแง่ Branding
แต่องค์กรที่บริหารจัดการด้วยรูปแบบคณะกรรมการแบบ ThaiPBS คงจัดการเรื่องนี้อย่างรวดเร็วได้ยาก
ก็ได้แต่มองในแง่บวกว่า ThaiPBS ยังกล้าออกมาขอโทษและยอมรับความจริง

ก็อยากให้กลับมาเป็นสื่อที่ให้คนไทยเอาไว้เป็นช่องทางเช็คข่าวเหมือนเดิมแบบที่ผมมักชอบบอกคนอื่น
“อันนี้ชัวร์ ThaiPBS ออกข่าวแล้ว”