สำนักข่าวเอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์รายงานว่า เกาหลีเหนือกล่าวโจมตีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ผ่านทางแถลงการณ์ต่อเนื่องหลายฉบับ โดยระบุว่า ความเห็นของสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงนโยบายที่เป็นปรปักษ์ ซึ่งสมควรถูกตอบโต้จากเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์หลายฉบับ ซึ่งแผยแพร่ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ มีขึ้นหลังจากที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เสร็จสิ้นการใช้เวลาหลายเดือนในการทบทวนนโยบายเกี่ยวกับเกาหลีเหนือแล้ว พร้อมทั้งเน้นถึงความท้าทายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ต้องเผชิญในขณะที่พยายามจะดำเนินนโยบายให้แตกต่างจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อนๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในแถลงการณ์ของเกาหลีเหนือฉบับหนึ่ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือด้วยการตำหนิสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นการยั่วยุที่แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ ต้องการจะเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ ซึ่งจะได้มีการตอบโต้ต่อไป
ในขณะที่แถลงการณ์อีกฉบับ นายกวอน จง กุน ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานกิจการสหรัฐฯ ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ อ้างถึงคำปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภาของนายไบเดน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายไบเดนกล่าวว่าโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและอิหร่าน เป็นภัยคุกคามและต้องจัดการด้วยวิธีการทางการทูตและการป้องปรามด้วยความเด็ดขาด
นายกวอนกล่าวว่า คำพูดดังกล่าวไม่มีเหตุผลและรุกล้ำสิทธิของเกาหลีเหนือในการป้องกันตนเอง เขาระบุว่า นายไบเดน มีเจตนาที่จะใช้นโยบายที่เป็นปรปักษ์กับเกาหลีเหนือต่อไป เหมือนที่สหรัฐเคยทำมาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดี ไบเดน เสร็จสิ้นการวางแนวนโยบายใหม่ในการกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธด้วยวิธีการทางการทูต แต่จะไม่ใช้วิธีการต่อรองกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
ในอีกด้านหนึ่ง คิม โย-จอง น้องสาวคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาโจมตีเกาหลีใต้ว่าไม่ขัดขวางปล่อยให้บรรดากลุ่มผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ปล่อยลูกโป่งพร้อมใบปลิว ต่อต้านระบอบปกครองของเกาหลีเหนือ ข้ามไปยังฝั่งเกาหลีเหนือในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าผู้นำเกาหลีใต้ไม่สนใจและปล่อยปละละเลย ทำให้คนกลุ่มนี้ย่ามใจกระทำสิ่งที่น่าละอาย เกาหลีเหนือจะไม่อดทนต่อการคุกคามดังกล่าวและจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมต่อไป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ 30 เม.ย.2564 กลุ่มนักเคลื่อนไหว Fighters For Free North Korea หรือ นักสู้เพื่อปลดปล่อยเกาหลีเหนือ ได้ปล่อยลูกโป่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในจังหวัดคยองกี และ คังวอน ข้ามเข้าไปยังพรมแดนเกาหลีเหนือ ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายนที่ผ่านมา ลูกโป่งที่ทั้งหมดมี 10 ลูก ได้บรรทุกใบปลิว 500,000 ใบ หนังสือเล่มเล็ก 500 เล่ม และธนบัตร 1 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 5,000 ใบ ไปด้วย ทั้งๆทางการเกาหลีใต้มีกฎหมายห้ามไว้
ในช่วงเวลาเดียวกัน ระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค.2564 ในการประชุมกลุ่ม G7 ที่ลอนดอน ญี่ปุ่น-สหรัฐ-เกาหลีใต้ ได้ร่วมประชุมหารือเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ได้ร่วมประชุมกัน โดยคาดหวังว่าทั้ง 3 ประเทศจะร่วมมือกันในระดับไตรภาคีเพื่อผลักดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกการใช้ขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น, นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายชุง อึยยอง รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีของจีนในประเด็นที่สหรัฐฯมองว่าสั่นคลอนเสถียรภาพของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การประชุมครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเสร็จสิ้นการทบทวนนโยบายที่จะดำเนินการกับเกาหลีเหนือ
นายบลินเคนได้แสดงความหวังว่า เกาหลีเหนือจะกลับมาสู่โต๊ะการเจรจาเพื่อหาทางออกในการยกเลิกใช้ขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุว่า รัฐบาลของปธน.ไบเดนแสดงเจตจำนงอย่างชัดแจ้งว่า สหรัฐจะใช้ “แนวปฏิบัติทางการทูต” เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แตกต่างกับยุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เน้นรูปแบบการต่อรอง โดยสหรัฐหวังที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยปลดอาวุธของเกาหลีเหนือ และป้องกันการแผ่ขยายอำนาจของจีนด้วย