จากที่กลุ่มราษฎร เดิมประกาศรวมตัวตั้งชื่อกลุ่มใหม่เป็น คณะไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นัดม็อบวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 บ่ายสามโมง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เดินหน้าข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์นั้น
ทั้งนี้โดยกลุ่ม The Connecion Seminar Center กลุ่มไม่เอาระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ นำโดย ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล , ธัชพงศ์ แกดำ , กตัญญู หมื่นคำเรือง , กรกช แสงเย็นพันธ์ , ธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ , ตัวแทนกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวและอ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับการต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง
“ทางกลุ่มฯ ได้นัดหมายการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15:00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินขบวนไปที่สนามหลวง เพื่อประกาศเจตจำนง ยืนยันว่า การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ มิได้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การชุมนุมที่ผ่านมาเราใช้สิทธิประชาชน หากมีการยกระดับหรือไม่ ประเด็นคือพวกเราไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ส่วนสถานการณ์วันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ความรุนแรงจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากรัฐ หรือ ตำรวจ คฝ. ก็จะขึ้นอยู่กับรัฐว่าจะให้สิทธิประชาชนในการชุมนุมหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นวาระสุดท้ายที่ประชาชนต้องออกมา ไม่งั้นจะจมอยู่กับความทุกข์อยู่แบบนี้เรื่อยๆ”
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะ โฆษก บช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
สำหรับการชุมนุมเมื่อวันที่ 12 พ.ย. กลุ่มราษฎรเอ้ย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส ไม่พบการรวมกลุ่มของมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด ส่วนการชุมนุมในวันนี้ มีการนัดชุมนุม 3 กลุ่ม คือ ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เวลา 17.00 น. , กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ศาลฎีกา เวลา 17.30 น. และกลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น.
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวถึง การนัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย. 64) ม็อบ 14 พฤศจิกา ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กับกลุ่มทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 15.00 น. และจะเคลื่อนขบวนไปท้องสนามหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมกำลังไว้รักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจไม่ได้อนุญาตให้มีการเคลื่อนขบวนไปท้องสนามหลวง หากมีการเคลื่อนขบวนจริงเจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย
อย่างไรก็ตามการชุมนุมทั้งในวันนี้ และพรุ่งนี้ตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณใกล้เคียงพื้นที่การชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด
สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีไปแล้ว 783 คดี สั่งฟ้องแล้ว 385 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนอีก 398 คดี
ด้าน พ.ต.อ. กกฤษณะ เปิดเผยด้วยว่า ตำรวจจำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างเฟคนิวส์ในสื่อโซเชียลเพื่อยั่วยุปลุกปั่นสร้างความเข้าใจผิด ก็มีความผิดเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทั่วประเทศมีถึงกว่า 1,200 คดี ซึ่งยืนยันว่าการชุมนุมยังเป็นความผิดตามกฏหมาย ต้องดำเนินคดี