สำนักพุทธฯ แถลงแล้ว 5 อดีตพระวัดสระเกศ กลับห่มจีวรไม่ได้ ชี้ชัดผิดอาญา พ่วงรักษาการเจ้าอาวาส โดนด้วย!
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา คณะสงฆ์วัดสระเกศฯ ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสพระภิกษุอธิษฐานครองผ้าไตรจีวรรับเข้าหมู่สงฆ์ ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครูสิริวิหารการ
ซึ่งต่อมาทางด้าน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ก็ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า 5 อดีตพระวัดสระเกศ ผิดคดีเงินทอนวัด ซึ่งทางศาลเมตตาให้รอลงอาญา บวชใหม่ไม่ได้ แต่กลับไปห่มจีวร ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด การที่เอาจีวรมาห่มก็คือการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เป็นความผิดกฎหมายอาญา
ล่าสุดทางด้าน อดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า
ขออนุโมทนาที่มหาเถรได้กรุณา เอื้อเฟื้อในพระธรรมวินัย ๒๑ เมษายน ๒๕๖๔ วันนี้ (๒๐ เม.ย. ๖๔) มีการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) แถลงข่าวว่า พศ.ได้นำกรณีคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ ประกอบพิธีครองผ้าไตรจีวรรับเข้าหมู่สงฆ์ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครูสิริวิหารการ ซึ่งทั้ง ๕ รูปอยู่ในช่วงที่ศาลพิพากษาให้รอลงอาญา ๒ ปี ประกอบกับในช่วงการดำเนินคดีเงินทอนวัดเมื่อปี ๒๕๖๑ อดีตพระเถระทั้ง ๕ รูป ได้ถูกดำเนินการให้พ้นจากสมณเพศ ตามมาตรา ๓๐ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่ระบุว่า เมื่อจะต้องจำคุก กักขังหรือขังพระภิกษุรูปใดตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล มีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ และให้รายงานให้ศาลทราบถึงการสละสมณเพศแล้ว
การที่อดีตพระเถระทั้ง ๕ รูป ทำพิธีกลับมาห่มจีวรอีกครั้ง อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา ๒๐๘ ประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังปรากฏภาพพระเทพรัตนมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นั่งเป็นประธานสงฆ์ในพิธีดังกล่าวด้วย
ซึ่งเหมือนเป็นการส่งเสริมสนับสนุน จึงอาจเข้าข่ายความผิดละเมิดจริยาพระสังฆาธิการด้วย มส.พิจารณาตามข้อหารือของพศ.อย่างถี่ถ้วนและเห็นว่า คณะสงฆ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์ ดังนั้นอดีตพระเถระทั้ง ๕ รูปจึงถือว่าพ้นจากความเป็นสงฆ์แล้ว และมอบให้ทางพศ.ไปหารือพิจาราณาแนวทางในการดำเนินการต่อไป
ขออนุโมทนาต่อทั้งมหาเถรสมาคม และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ช่วยกรุณาปกป้องพระธรรมวินัย มิให้พวกอลัชชีเข้ามาอาศัยหากินและบ่อนทำลาย ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ พุทธะอิสระ