บิ๊กตู่ฯพริ้วไม่ฟันธงแก้ปัญหาหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว?!?ผลักกทม.อ่วม BTSCจ่อฟ้อง 3 หมื่นลบ.ค้าง 3 ปีนานเกินรับไหว

1730

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยสิ่งที่คำนึงมากที่สุด คือ ความเดือนร้อนและความต้องการของประชาชน และรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป ทั้งขอให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องช่วยกันแก้ปัญหา เพราะหลายเรื่องปัญหามีความซับซ้อน แต่รัฐบาลก็ต้องแก้ไข เมื่อแก้แล้วก็มีปัญหาอื่นตามมา ซึ่งต้องแก้ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาต่อรัฐบาลในอนาคตด้วย ล่าสุด รมว.คมนาคมต้นเรื่อง ศักดิ์สยามติดโควิดต้องพักรักษาตัว  ส่อแววอาจเลื่อนหรือไม่ต้องติดตามว่าใครจะนำกลับเข้าพิจารณาในครม.เมื่อไหร่? แต่กว่าวันนั้นจะมาถึง กทม.รับโนติสทวงหนี้ของ BTSC ครั้งที่ 2 แล้ว และทางเอกชนมีสิทธิ์ฟ้องร้องทวงหนี้เพราะติดค้างมายาวนานกว่า 3 ปี จำนวนกว่า 3 หมื่นล้านบาท ใครจะแบกต่อไหวเมื่อเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ

วันนี้ เมื่อเวลา 13.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีครบกำหนด 60 วัน ที่บีทีเอสทวงหนี้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย  

กทม.ติดค้างBTSC ไว้เป็นจำนวนเงินกว่า 30,000 ล้านบาท นั้น รัฐบาลได้พิจารณาเรื่องนี้พลเอกประยุทธ์ฯกล่าวว่า ตนทราบถึงความเดือดร้อน ซึ่งตนเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักในการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะนี้ขั้นตอนเหลือเพียงนำเข้าครม.เพื่อพิจารณา และจะไปสู่เรื่องของการเจรจาที่มีการพูดคุยหารือมาบ้างแล้ว 

เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงที่สุด คือความเดือดร้อนของประชาชน ความต้องการของประชาชน เพราะฉะนั้นรัฐก็ต้องแก้ไข ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้ก็ช่วยกันแก้ไข หลายๆเรื่องบางทีปัญหาเกิดมาซับซ้อนหลายอย่างด้วยกัน เราก็ต้องมาแก้ เมื่อแก้ก็มีปัญหาอื่นตามมาด้วยเสมอ รัฐบาลก็จำเป็นต้องแก้ให้ถูกต้อง ไม่ให้เป็นปัญหาต่อรัฐบาลในอนาคตด้วย 

ก็ขอความร่วมมือกับภาคเอกชน ธุรกิจต่างๆด้วย ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเดินได้โดยเร็ว แล้วบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน และราคาต้นทุนที่มันไม่สูงเกินไปนัก มันก็เดินได้หมด ถ้าทุกคนจะเอาคนละอย่างสองอย่าง แล้วมันหารือกันไม่ได้ ตกลงกันไม่ได้มันก็เดินไม่ได้ ทั้งที่เรามีความพร้อมที่จะเปิดเดินอยู่แล้ว เปิดไปแล้วด้วย มีการใช้ไปแล้ว มีการให้บริการไปแล้วในบางระยะแล้วไม่ได้เก็บค่าโดยสาร นั่นคือสิ่งที่ประชาชนได้รับประโยชน์แล้วส่วนหนึ่ง ดังนั้นใหม่ๆก็ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ถ้ามัวแต่ทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน จับผิดจับถูกกันอยู่แบบนี้มันก็ไปไม่ได้สักอย่าง ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด โดยคำนึงถึงผู้ได้รับประโยชน์คือประชาชนในทุกๆเรื่อง

คำตอบของนายกฯ เหมือนไม่ยอมรับว่า ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นปัญหาร่วมพัวพันกับปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเป็นปัญหาทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับภาคเอกชน เป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นและอยู่ในสายตาประชาชน ไม่ใช่เรื่องจับผิดจับถูก แต่เป็นเรื่อง นักการเมืองกับอำนาจหน้าที่ ในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติงานที่ต้องร่วมกับเอกชนตามพรบ.ร่วมทุน ว่าพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นไปตามมาตรฐานธรรมาภิบาลหรือไม่ มีอคติเลือกปฏิบัติหรือไม่? ล่าสุดนายศ้กดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวมคมนาคมติดโควิด ต้องใช้เวลารักษาตัวอีกนาน ก็หวังว่ากระทรวงมหาดไทย เจ้าภาพร่วมจะไม่นิ่งนอนใจ ปล่อยปัญหายืดเยื้อไม่รู้จบ สะท้อนการบริหารงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลไม่เป็นมืออาชีพ ส่งผลความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและประชาชนต่อรัฐบาลและนัวนายกรัฐมนตรีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ !