เฌอเอม-นางงามเฟคนิวส์ ท่องซ้ำรู้สึกผิดต่อคนเสื้อแดง เสียใจไม่ได้เข้าร่วม ย้อนวีรกรรมม็อบ ปล้นรถแก๊ส ปาระเบิด เผาศาลากลาง-ห้างวอด?!?
จากกรณีที่วันที่ 6 เมษายน 2564 น.ส.ชญาธนุส ศรทัตต์ หรือ “เฌอเอม” อดีตผู้เข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ได้เข้าร่วมเสวนา ทำไมต้องเป็นหนึ่งชื่อรื้อระบอบประยุทธ์? โดยกล่าวว่า จะต้องเอา 250 ส.ว. ออกไปก่อน เพราะเราไม่รู้สึกปลอดภัยในการออกมาคอลเอ้าท์ที่ผ่านมา จึงขอให้คิดถึงลูกหลาน จึงขอให้ลงชื่อเพื่อรื้อระบอบประยุทธ์ เพื่อสร้างความปลอดภัย เพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตย ให้พื้นที่กับทุกคน
โดยในระหว่างเสวนานั้น เฌอเอม ได้ร้องไห้พร้อมกล่าวว่ารู้สึกผิดต่อคนเสื้อแดง ที่เราเคยคิดว่าเขาคือคนไม่ดีในอดีต โดยย้ำถึงความสำคัญของทุกคน เพื่อลงชื่อแก้ไข รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งในการให้เพื่อนได้รับการปล่อยตัว และเพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน
หากย้อนไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เฌอเอมได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มราษฎร ที่สี่แยกราชประสงค์ และได้ตอบคำถามสำหรับผู้ที่บอกว่า ตัวเองเป็นกลางในสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ว่า มันอาจจะแปลว่าคุณดูข่าวไม่มากพอ อาจจะดูแค่อมรินทร์หรือว่าอะไรอย่างนี้ คือดิฉันก็เคยไปออกอมรินทร์ และดิฉันก็เคยไปออกเนชั่น และดิฉันคิดว่าถ้าเรามีเสรีภาพทางสื่อ เราจะไปออกช่องไหนที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่หลักการและจุดยืนที่เราพูดกันมันยังเหมือนเดิม
อยากให้ลองเสพสื่ออีกฝั่งดูบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าถ้าสมมติมันไม่สำคัญจริง ๆ มันคงไม่มีคนเป็นหมื่นเป็นแสนออกมาหรอก 1 แสนเท่ากับ 69 ล้านคนมันอาจจะดูน้อย แต่ความจริงแล้วมันเยอะใช่ไหม คุณเคยคิดไหมว่า 1 ต่อแสนมันคือเท่าไหร่ ลองดูก่อนก็ได้ จะได้เข้าใข
และยังกล่าวต่อว่า เพราะว่าเอมเคยเสียใจที่สุด คือเอมไม่ได้ไปชุมนุมของคนเสื้อแดง เอมก็ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง กว่าที่เอมจะรู้ได้ว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไงมันก็ช้าไปแล้ว บางทีคุณอาจจะเสียใจในอนาคตก็ได้ ถ้าคุณไม่ได้ตัดสินใจเพื่อชีวิตตัวเองตอนนี้ บอกไม่ได้หรอกค่ะว่าอีก 10 ปี 20 ปีมันจะถูกหรือผิด แต่ก็ดีกว่าเฉย เพราะว่าถ้าเฉยเมื่อไหร่ คือคุณทิ้งสิทธิ์ที่คุณทำได้ในวันนี้ไปแล้ว
หากย้อนไปเมื่อปี 2551 การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ถือว่าเป็นการชุมนุมที่มีการใช้ความรุนแรง มีการใช้อาวุธในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ มีการใช้ระเบิดในการชุมนุม ทำให้มวลชนหรือฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แม้แต่ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แนวร่วมคนสำคัญของเสื้อแดง ยังเคยโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ความจริง ยังมีความผิดพลาดที่สำคัญมากอีกอย่าง ที่เพื่อไทย-เสื้อแดง จำนวนมาก ไม่เคยยอมเผชิญกับความจริงนั้น คือเรื่องการใช้อาวุธในหมู่คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งตลอดช่วงวิกฤต กปปส. ..เรื่องนี้ดังที่ผมเคยกล่าวไว้แล้วว่า สักวันเมื่อทุกฝ่ายพร้อมจะเผชิญความจริง (อีกฝ่าย พร้อมจะยอมรับให้จัดการความผิดของการรัฐประหารยึดอำนาจ) จึงจะสามารถนำมาอภิปรายกันเต็มที่ได้ .. ในที่นี้ อยากจะเสนอให้คิด (โดยเฉพาะสำหรับเสื้อแดง) ว่า
คิดแบบ “สามัญสำนึก” ง่ายๆ เลย การใช้อาวุธในขณะมีรัฐบาลที่พวกคุณเชียร์อยู่ในอำนาจ มีแต่ทำให้รัฐบาลเสีย บางทีผมก็คิดแบบกึ่งขำ ส่ายหัว อะไรแบบนั้นเลยนะว่า ทำไมคนที่ใช้ ถึงคิดไม่เป็น(วะ) พวกคุณเองเป็นรัฐบาล คุณใช้อาวุธ คนที่แย่คือรัฐบาลพวกคุณเอง ที่ “คุมสถานการณ์ไม่ได้” มีคนเจ็บคนตายอยู่ตลอดเวลา และเป็นข้ออ้างอย่างดีให้ทหารเข้ายึดอำนาจ (ประยุทธ ยังคงเอามาอ้างจนทุกวันนี้)”
นอกจากนี้ เมื่อปี 2552 กลุ่มคนเสื้อแดง ได้มีการปล้นรถแก๊สมาจากคนขับที่กำลังจะขับไปส่ง ณ สถานที่แห่งหนึ่งเอามาจอดขวางถนน และมีการเปิดวาล์วแก๊สเป็นระยะ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ภายหลังจากที่ทหารได้ทำการสลายการชุมนุม เพื่อเป็นการข่มขู่ทหารในกรณีหากจะเข้าสลายการชุมนุมอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีเสื้อแดงบางคนวิ่งไปใต้แฟลตดินแดง ตะโกนเสียงดังขับไล่ชาวบ้านที่อยู่ในแฟลตว่าให้ออกไปจากที่พัก เนื่องจากมีการปล่อยข่าวออกมาว่ากลุ่มเสื้อแดงจะระเบิดรถแก๊สภายในแฟลตดินแดง สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก
ขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ กลุ่มเสื้อแดง ได้นำรถประจำทาง มาปิดถนนพหลโยธิน 4 แยกพญาไท ทั้ง 4 ด้านแล้วโดยมีการนำยางรถยนต์มาเผาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคำพูดของเฌอเอมที่บอกว่า รู้สึกผิดกับคนเสื้อแดงนั้น แสดงให้เห็นว่า เฌอเอมไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ ไม่เคยได้ศึกษาถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ได้เกิดความรุนแรง เกิดการสูญเสียจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ได้มีการใช้อาวุธ มีการเผาบ้านเผาเมือง ทำให้ประเทศเสียหายและเกิดความแตกแยก?
