หลังจากที่ม็อบ 24 มีนาคม ได้มีการนัดหมายชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มแนวร่วมอื่น ๆ ซึ่งประกาศนัดชุมนุมใหญ่ ในลักษณะการชุมนุมแบบมีเวทีหลัก และมีการ์ดดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์
พร้อมทั้งแจ้งรายชื่อแกนนำที่ยังเหลืออยู่ขึ้นปราศรัย โดยมี เบนจา อะปัญ , ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ และ มายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรึงกำลังและดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดการชุมนุม
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในการปราศรัยบนเวทีม็อบ 24 มี.ค. นั้น คือ มายด์ ภัสราวลี 1 ในแกนนำของกลุ่มราษฎร ที่พูดกับมวลชนก่อนว่า อยากจะส่งสารสำคัญนี้ให้ถึงทุกคนให้มากที่สุด เหมือนเป็นการพูดครั้งสุดท้าย ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและศรัทธาในพลังของตัวเอง และบอกเป็นนัยยะว่า นี่ “เป็นการพูดครั้งสุดท้าย” ไม่มั่นใจว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่
ทั้งนี้ในเนื้อหาของการปราศรัย มายด์ ภัสราวลี ได้กราบบังคมทูลถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ขอพระราชทาน 3 เรื่อง คือ การบริหารจัดการกองทัพ บทบาททางการเมือง และทรัพย์สินของประชาชน และย้ำว่าตนเองและกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ยืนยันว่าต้องการรปฏิรูปสถานบันฯ ต่อมา นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงคำปราศรัยของมายด์ว่า “ขอให้เพื่อน ๆ ไปหาฟังคำปราศรัย ของน้องมายด์(ภัสราวลี)ในค่ำคืนนี้ 24 มีนาคม 2564 เป็นคำปราศรัยที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่ผมได้เคยฟังคำปราศรัย ของบุคคลต่าง ๆ มาจำนวนมากในชีวิตผม ขอปรบมือและแสดงความคารวะจากใจจริง”
เมื่อย้อนไปดูเหตุการณ์ที่ “มายด์ ภัสราวลี” เคยขึ้นปราศรัย เจ้าตัวจะมีถ้อยคำที่ดุดัน เจ็บแสบ ฝีปากกล้า จนถูกยกว่าเป็นนักเคลื่อนไหวที่ฝีปากไม่ธรรมดา
โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 63 “มายด์ ภัสราวลี” ปราศรัยหน้าสน.บางเขน ตอนนั้นเจ้าตัวเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวทนายอานนท์ นำภา และ ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก และทิ้งถ้อยคำดุเดือดไว้ว่า “ประกาศตามหาความยุติธรรมที่รัฐไม่เคยมีให้ ”
– 26 ต.ค. 2563 “มายด์ ภัสราวลี” ตัวแทนคณะราษฎร ขึ้นปราศรัยถึงข้อเรียกร้องในหนังสือที่นำมายื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี โดยระบุว่า “วันนี้เราได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจบนดินแดนเยอรมนี ซึ่งตนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่งที่เพียงอยากได้ประชาธิปไตย พร้อมกับอ่านจดหมายที่ตนเองนำเข้าไปยื่นต่อตัวแทนสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมถึงอยากให้ตรวจสอบ หลังราษฎรเกิดข้อสงสัยต่าง ๆ ”
และเมื่อ วันที่ 19 มี.ค. 64 มายด์ เป็นคนนำทีม 3 แม่ ของ ‘เพนกวิน-รุ้ง-ไผ่’ เดินสายร้องนานาชาติ กดดันรัฐบาลไทย ปล่อยผู้ต้องหา ม.112 ก่อนถึงวันอัยการนัดฟังคำสั่งคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ในวันนี้ด้วย (25 มี.ค.) ซึ่งการปราศรัยของ “มายด์ ภัสราวลี” ที่ผ่านมา ขัดเจนว่า เจ้าตัวกล้าที่จะพูดถึงสถาบันอย่างเปิดเผย ทั้งแฝงไปด้วยข้อความจาบจ้วง และจะปิดท้ายว่า แค่อยากให้มีการปฏิรูปสถาบันเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้ (25 มี.ค.) อัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ในข้อหากระทำผิดตาม มาตรา 112 มาตรา 116 ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเดินไปไหว้พระที่ วัดชนะสงคราม ก่อนจะประกาศชุมนุมที่แยกราชประสงค์ พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “วันนี้เอาฤกษ์เอาชัยที่วัดชนะสงคราม เพราะหลังจากนี้คงได้เจอศึกใหญ่ที่ต้องสู้กับรัฐเผด็จการ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ถึงเวลาที่เรามารวมพลังกันต่อสู้กับเผด็จการ วันนี้ทุกคนจะได้เห็นและเข้าใจ ว่าแท้จริงแล้ว การปกป้องสถาบันที่แท้จริงเป็นเช่นไร #ม็อบ24มีนา #เพราะประเทศนี้เป็นของราษฎร #ม็อบปกป้องสถาบัน”