ถอดแผนม็อบล็อกเป้าเผาเมือง จับ 2 เยาวชนหญิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์ รวบชายวางเพลิงอนุสาวรีย์ปชต.

5300

จากกรณีกลุ่มรีเดมมีการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา และเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ล่าสุด นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของ TOP News โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “Kanok Ratwongsakul Fan Page” ระบุว่า

ม็อบ 20 มีนา ทำตำรวจเจ็บมากที่สุดกว่า 50 นาย 11 นาย ต้องอยู่ รพ. มี 1 นายกะโหลกร้าว ภารกิจของตำรวจครั้งนี้สำคัญมาก “ต้องป้องกันพระบรมมหาราชวัง” นี่ขนาดมีตัวช่วย เป็นแนวตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น หลายสิบตู้

มีคำถาม มีข้อสงสัย และมีความต้องการ จากคนที่ติดตามข่าวนี้ ด้วยความเป็นห่วงตำรวจว่า…

มาตรการแรงสุด ที่ตำรวจเตรียมไว้คืออะไร? ใช่ยิงกระสุนยางหรือไม่?

มาตรการแรงสุดนั้น ต้องต้านม็อบแถวหน้า บ้าห้าวทะลุแนวตำรวจโล่ หรือฝ่าแนวคอนเทนเนอร์มาได้?

คนที่มัน ตัดทำลายรั้วลวดหนาม ปีนขึ้นไปบนคอนเทนเนอร์ชั้นที่ 2 เพื่อจะเกี่ยวลวดสลิง โยงมาให้คนอีกนับสิบ ๆ คนดึงตู้ลงมา คือ พวกที่จะบุกวัง ม็อบมันจะ “บุกวัง” ถูกมั๊ยครับ?

อย่างไรก็ตาม ด้วยกำลังตำรวจนับหมื่น ม็อบบุกวังไม่สำเร็จ แต่มันไปแสดงออกด้วยการ เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ ! กล้องวงจรปิด กระถางต้นไม้ หลาย ๆ จุด

ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การชุมนุมในห้วงเวลานี้ยังเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ การชุมนุมเราจำเป็นต้องใช้เครื่องกีดขวางในบางพื้นที่การชุมนุมเนื่องจากเกรงว่าจะกระทบสถานที่สำคัญของทางราชการ เรามีมาตรการระงับยับยั้งตามกฎหมายและได้รับการยอมรับตามระดับสากล หลักการสำคัญไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ชุมนุม เราพยายามดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบ และมีการแจ้งเตือนผู้ชุมนุมอยู่ตลอด

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เผยว่า เวลา 17.00 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุม 2 พื้นที่ 1.ที่สนามหลวงหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ 2.หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแมคโดนัล เวลา 17.22 น.กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าร้านแมคโดนัลรวมตัวกันเพื่อเดินทางมาสมทบกับผู้ชุมนุมหน้าโรงแรมรัตน์โกสินทร์ เวลา17.30 น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้อ่านประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหลายมิติ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมผลักดันเจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่โห่ไล่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนต้องถอยร่นออกมาหาที่ปลอดภัย เวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมรื้อสิ่งกีดขวางบริเวณท้องสนามหลวงแนวที่1 เวลา 18.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเคลื่อนย้ายตู้คอเทนเนอร์ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมอีกส่วนได้ใช้สิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่อนเหล็ก ท่อนไม้และหนังสติกลูกแก้ว ลูกเหล็ก ตลอดจนระเบิดบางชนิดโยนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บางส่วนเป็นระเบิดมีมีลักษณะติดไฟได้ง่าย

เวลา 18.50 น.กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์เปิดเป็นช่องพยายามบุกรุกเขตหวงห้ามโดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนเป็นระยะ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนทุบทำร้ายทรัพย์สินส่วนราชการ ทำร้ายตำรวจ เวลา 19.00 น.ตำรวจได้ประกาศเตือนอีกครั้ง แต่ผู้ชุมนุมยังพยายามบุกรุกต่อพื้นที่หวงห้าม ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องฉีดน้ำเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม

รอง ผบช.น.เผยอีกว่า จากนั้นเวลา 21.40 น.กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มจุดเพลิงในพื้นที่ต่างทั้งถนนราชดำเนิน หน้ากองฉลากเก่า สนามหลวง ด้านหลังโรงแรมรัตน์โกสินทร์ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า และพื้นที่อื่น ๆ มีการทุบทำลายรถเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคันบริเวณสะพานวันชาติ และวางเพลิงเผารถของราชการและทรัพย์สินของประชาชน กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.ตำรวจจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามปกติ โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 20 คน

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ รักษาที่ รพ.ตำรวจ จำนวน 9 นายและ รพ.วชิระอีก 2 นาย ส่วนใหญ่ถูกของแข็งกระแทกบริเวณศีรษะ ร่างกาย ที่น่าเป็นห่วง 1 นายกะโหลกศีรษะแตก อยู่ในห้องไอซียู รพ.ตำรวจ ในการชุมนุมความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นหลัก และเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเดิม ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายตั้งรับรักษาความสงบและรักษาสมบัติของชาติ ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าการชุมนุมไม่มีแกนนำแต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่ายังมีกลุ่มผู้แกนนำอยู่ตามปกติแต่เพียงไม่ปรากฏตัวเท่านั้น ถ้ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงเราต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมด 20 คน ถูกนำตัวไปควบคุมที่ ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี

อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่วางเพลิงเผาทรัพย์ บริเวณถนนราชดำเนินใน ปากทางเข้าซอยราชินี แขวงพระบรมมหาราชวังเขตพระนคร กรุงเทพฯ สามารถจับกุม ด.ญ. 2 คน อายุ 14 ปี 1 คน 15 ปี 1 คน จับกุมได้ที่ถนนพระราม 6 แยกศรีอยุธยา เขตพญาไท แขวงทุ่งพญาไท กรุงเทพมหานคร

ขณะที่ ยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฏร์ ได้เข้าควบคุมตัวนายพรชัย (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมของกลางเป็นแกลลอนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า นายพรชัย อาจจะกำลังเตรียมการณ์จะก่อเหตุเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยตัวนายพรชัย ได้ขับรถกระบะที่มีการติดป้ายระบุว่า “บริการประชาชน สนับสนุนโดย ส.ส.สิระ เจนจาคะ และผู้มีจิตอันเป็นกุศล”

เบื้องต้น รายงานข่าวระบุว่า ชายคนดังกล่าวมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และได้โทรศัพท์ให้ญาติมารับตัวกลับไปรักษาแล้ว