ดีกรีคนละรุ่น เพลงชาติดังสนั่น ต้อนรับแกนนำ กปปส. กลับบ้าน “สมบัติ” ชำแหละต่อ สามกีบไม่จริงใจ

3211

ผ่านพ้นกระบวนการประกันตัวมาได้เรียบร้อย และทั้ง 8 แกนนำกปปส. ได้เดินทางไปทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคล หลังออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น

ซึ่งต่อมาหลาย ๆ คนก็ได้เปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ขณะที่ถูกคุมขัง ว่าได้รับการดูแลเหมือนกับนักโทษทั่วไป เหมือนกับที่นายถาวร เสนเนียม บอกว่า เราได้ทำตามกฎของกรมราชทัณฑ์ กินอยู่หลับนอนเหมือนนักโทษคนอื่น ถือเป็นสิ่งที่ได้ประสบการณ์ชีวิต ถือเป็นการอยู่ในเรือนจำที่มีความสุขมาก

ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา บริเวณสนามหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชุมพร ได้มีชาวบ้าน กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำชุมชน นักการเมืองท้องถิ่น จำนวนมาก ออกมาร่วมกันต้อนรับให้กำลังใจแก่ นายชุมพ จุลใส หรือ “ลูกหมี”อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส.ที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 9 ปี 24 เดือน และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากการชุมนุมทางการเมืองเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และขับไล่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา

โดยทางด้านนายชุมพ จุลใส หรือ “ลูกหมี” ได้กล่าวกับผู้ที่มาต้อนรับว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจแม้วันนี้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาจำคุกตน 9 ปี 24 เดือน และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ถือว่าเป็นโทษที่ตนได้รับสูงที่สูดมากกว่าทุกๆคนในบรรดาแกนนำ กปปส. ซึ่งพี่น้องประชาชนก็เห็นอยู่แล้วว่าตนต่อสู้และทุ่มเทอย่างสุดชีวิตเริ่มจากการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับคนโกงชาติบ้านเมือง

จนนำไปสู่การขับไล่รัฐบาลทุจจริตคอรัปชันในช่วงนั้น ซึ่งตนเคารพกฎหมายและน้อมรับในคำพิพากษาไม่ว่าจะตัดสินออกมาอย่างไร ตนไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้กระทำเพื่อชาติบ้านเมือง และไม่เคยคิดที่จะหลบหนีเหมือนใครบางคน

แม้วันนี้ตนจะเป็นอดีต ส.ส.ชุมพร ไปแล้ว แต่ตนก็จะทำหน้าที่ในฐานะประชาชนเพื่อประชาชนต่อไป และพร้อมที่จะออกมา ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยังคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมือนเดิม และขอให้ชาวชุมพรทุกคนให้การสนับสนุนรัฐบาลของ พล อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป เพราะท่านเป็นคนดีเสียสละเข้ามาทำงานเพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากคนโกง

นอกจากนี้ “ลูกหมี” ยังได้กล่าวกับชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับนานประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เกี่ยวกับความเป็นมาในการชุมนุมและเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส.ในอดีต จนกระทั่งมาถึงวันตัดสินพิพากษาคดีให้จำคุก 9 ปี 24 เดือน และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากปรบมือส่งเสียงสู้ ๆ และมอบดอกกุหลาบแดงให้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านไป ซึ่งต้องบอกว่าบรรดาชาวบ้านที่มารอต้อนรับนั้น ล้นหลามและแน่นพื้นที่หน้าสนามอบจ.ชุมพรอย่างมาก ชัดเจนว่าพวกเขาให้การต้อนรับ นายวีระบุรุษ หรือลูกหมีกลับบ้านเกิด และชื่นชมที่สู้เพื่อชาติ แม้จะต้องโดนคดีก็ตาม

ทั้งนี้อีกหนึ่งข้อสังเกต ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ภายหลังมีกระแสของแกนนำกปปส. ไม่ว่าจะฟังคำพิพากษา ตัดสิน นอนเรือนจำ จนนำมาสู่การประกันตัว ทำให้ทางฝั่งม็อบ 3 นิ้ว นำหลาย ๆ เรื่องราวมาตอบโต้และโจมตีการตัดสินของศาล 3 นิ้วนำไปโยงกับการคุมขัง 4 แกนนำราษฎร และเห็นได้ชัดว่า เมื่อกระแสรักชาติกลับมาอีกครั้ง ม็อบ 3 นิ้วก็เริ่มไปไม่เป็น หัวเสียที่คนไทยส่วนใหญ่ ชื่นชมและลุกฮือปกป้องแกนนำกปปส. โดยเหตุการณ์เล่านี้ น้อยนักที่ม็อบ 3 นิ้วจะเคยเจอ จนนำมาสู่การทะเลารุนแรงในก๊วนแกนนำและม็อบ มีการแฉรายวัน ถึงความเน่าเฟะเบื้องหลัง

เพราะล่าสุดนายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กอีกว่า เรื่องสลิปที่โอนมาค่าเอ็มร้อย ค่าโน่น ค่านี่ ค่านั่น ตอนโอนมาก็บอกว่า เอาไปใช้เถอะ จะเอาไปทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องแท็ก ไม่ต้องโชว์สลิป

ยามดีกัน ก็บอกว่าไม่เป็นไร เต็มใจช่วย เพราะชื่นชอบและศรัทธาในการทำงาน แต่พอหมดรัก หมดพิศวาส ก็เอามาแฉกันแบบนี้ มันใช่หรือ ก็ตอนโอน เงินก็อยู่ที่โทรศัพท์ ไม่ได้เอาปืนไปจี้หัวแบบปล้นว่า ถ้าไม่โอนจะยิงให้หัวกระจุยโอนเดี๋ยวนี้

เข้าใจว่าเจ็บแค้น เจ็บใจที่ไม่น่าโอนให้เลย ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ที่ไว้ใจและเชื่อใจโอนมาให้ แต่ผมคงไม่มีปัญญาเอามาคืนเพราะใช้หมดแล้ว ก็หมดไปกับเด็ก ๆ นั่นแหละ คงไม่สามารถแจ้งได้ว่า เอาไปทำอะไรบ้าง แต่ก็ยังขอขอบคุณจริง ๆ แต่ก็จะจำไว้เป็นบทเรียน จะไม่เรี่ยไรอะไรให้ใครอีกแล้ว

เข็ดจริง ๆ ยามรักกันปานจะแหกดากดม กี่พันกี่หมื่นก็ถมเข้ามา แต่พอหมดรักเอามาด่าเอามาประจานกัน


อย่างไรก็ตามเราจะไม่เคยเห็นเหตุการณ์แฉกันเช่นนี้ในฝั่งกปปส. เพราะถึงขนาดวันที่ต้องเผชิญชะตากรรมรับคำตัดสินด้วยกัน ก็ไม่มีใครหนีหาย หรือพาลโทษกันในเรื่องของอดีต ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี หรือแฉกันเหมือนที่ม็อบ 3 นิ้วทำ นอกจากนี้แกนนำกปปส. ได้มีจุดยืนชัดเจนว่า สู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และทำได้จริง แม้จะมีคดีอยู่ ก็ยังยึดมั่นในสิ่งที่ทำ ทางด้านลุงกำนันสุเทพ ก็บอกไว้ด้วยว่า ไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์ ใครจะติดคุก หรือรอด เราก็จะไม่ทอดทิ้งกันแน่นอน

แต่เมื่อมาดูทางฝั่งม็อบ 3 นิ้ว ที่บอกว่าเรียกร้องประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็มีการแย่งชิงอำนาจ อมเงินบริจาค โกงกันเองหลายครั้ง ก็คงจริงอย่างที่นายสมบัติลงทุนแฉ ว่าม็อบนี้ไม่มีความจริงใจ ยามรักเงินกี่บาทก็ทุ่มให้กันได้ พอหมดรัก ก็เอาออกมาประจาน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมวันที่มีการปล่อยตัวแกนนำราษฎร ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ผ่านมา เราถึงไม่ได้เห็นภาพมวลชนมากมายขนาดนี้มารอรับ เหมือนกับฝั่งกปปส. ที่ได้กลับมาปลุกพลังคนรักชาติให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง