ชัดเจน!! ทิศทางแก้รธน. ทุกฝ่ายขานรับเลือกตั้งบัตร 2 ใบ “เพื่อไทย” ยิ้มร่า มีโอกาสขึ้นเป็นใหญ่

1707

หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ได้จัดเสวนา “แก้รัฐธรรมนูญ แก้วิกฤติประเทศอย่างไร เพื่อไทย มีคำตอบ” โดยนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการการเมือง พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เข้าร่วม โดยยังย้ำจุดยืนชัดว่าต้องการระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ

โดยนายชูศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากบทเฉพาะกาล โดยมาตรา 269 ให้มีกรรมการสรรหา ส.ว.ต้องมาจากผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นกลางทางการเมืองสรรหา ส.ว.ให้ได้ 250 คน ซึ่งบุคคลนั้น คือ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ทำให้ประเทศไทยได้ ส.ว.ที่มาจาก อดีต คสช. อดีตนายทหาร เมื่อเลือกนายกรัฐมนตรี 99.99% เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งส.ว.ตามบทเฉพาะกาลนี้มีอายุ 5 ปี ทำให้ ส.ว.ชุดนี้เลือกได้นายกรัฐมนตรีได้ 2 ครั้ง ประชาชนจึงได้เห็นภาพอเนจอนาถเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ถาม ส.ว.ในที่ประชุมวุฒิสภาว่า มีใครไม่เชื่อมั่นนายกฯ ให้ยกมือ ซึ่งไม่มีใครยกมือแม้แต่คนเดียว นอกจากจะทำตัวเป็นครู เป็นหัวหน้า ยังทำผิดข้อบังคับชัดเจนในการประชุมสภาอีกด้วย

 

ทั้งนี้การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องการแก้ไขให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ยังมีพรรคภูมิใจไทย และพรรคภราดร ที่ยืนยันจะเอาบัตรใบเดียว งานนี้ต้องรอจับตาดูว่า พลเอกประยุทธ์ จะเดินไปไหนทิศทางไหน เพราะพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็มีความชัดเจนเช่นกันว่าต้องการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งเรื่องนี้ กลุ่ม “3 ป.” ก็เปิดเผย ออกมาแล้วว่าจะไม่มีการยุบสภาในเวลาอันใกล้ โดยมุ่งเป้าอยู่จนครบเทอม และสำหรับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ การแก้รัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นวาระ 1-3 ไม่เกินเดือน ส.ค.2564 นี้

ส่วนทางด้านพรรคฝ่ายค้าน ก็เริ่มเสียงแตกมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากพรรคเพื่อไทย ขอแยก เดินหน้าวางพรรคพลังประชารัฐ เพื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเอง ที่สำคัญเสนอแก้ระบบการเลือกตั้งมาใช้บัตร 2 ใบ ทำให้เสียงของฝ่ายค้าน กระเด็นไปคนละทาง เพราะบัตร 2 ใบนั้นส่งผลเสียต่อพรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ อย่างมาก เพราะโอกาสที่จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีน้อยลง