ดร.นิว ซัด ปิยบุตร ย้อนแย้งอ้างประชาธิปไตย แต่ไม่เคยพูดถึงบทบาทในหลวงนอร์เวย์ หมกมุ่น การปฏิวัติฝรั่งเศสที่รุนแรงและป่าเถื่อน!?!
จากกรณีที่ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เชื่อว่าประชาชนคนไทยส่วนใหญ่อาจยังไม่เคยรับทราบเรื่องนี้มาก่อน โดยบอกว่า
สงสารในหลวง เห็นพระราชสาส์นถวายพระพรชัยมงคลไปยัง สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งนอร์เวย์ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วรู้สึกปวดใจยิ่งนัก เพราะในหลวงของไทยไม่เคยมีบทบาทประมุขแบบในหลวงของนอร์เวย์
ประเทศนอร์เวย์ที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นประชาธิปไตยเป็นอันดับหนึ่งของโลก ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ Constitutional Monarchy แม้แต่ทุกวันนี้ในหลวงของไทยทำอะไรก็ถูกบิดเบือนให้ร้ายด้วยการเชื่อมโยงแบบมั่วๆไปเสียหมด ในหลวงทรงไม่เซ็น เพราะเป็นเรื่องส่วนพระองค์ พวกมันก็บิดเบือนให้ร้าย ในหลวงทรงเซ็น เพราะเป็นเรื่องทางราชการ พวกมันก็บิดเบือนให้ร้าย
ผมไม่อยากจะนึกสภาพเลยว่า ถ้าในหลวงของไทยมีบทบาทนั่งหัวโต๊ะและประชุมร่วมกับรัฐบาลทุกสัปดาห์แบบในหลวงของนอร์เวย์ ในหลวงของไทยจะถูกบิดเบือนให้ร้ายแค่ไหน ทั้งๆที่เป็นบทบาทที่ถูกต้องขององค์ประมุขในระบอบ Constitutional Monarchy ซึ่งพระราชินีของอังกฤษก็มีเหมือนกัน แต่อาจจะต่างออกไปหน่อยที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษประชุมร่วมกับพระราชินีตามลำพัง เป็นประจำทุกสัปดาห์
ตราบใดที่ในหลวงของไทยยังถูกบิดเบือนให้ร้ายอยู่แบบนี้ แล้วยังมีคนกลุ่มหนึ่งขาดความรู้ความเข้าใจทางการเมืองที่ถูกต้องตกเป็นแนวร่วมของขบวนการสาธารณรัฐตามรอยคณะราษฎร เราจะไม่มีวันออกจากความขัดแย้งแตกแยกและโครงสร้างของระบอบเผด็จการที่สืบทอดมาจากคณะราษฎร แล้วหันมาสร้างประชาธิปไตยแบบ Constitutional Monarchy ที่ถูกต้องและสมบูรณ์ได้เลย
ในหลวงจะไม่ทรงโดดเดี่ยว ผมจะสู้เพื่อปกป้องในหลวง และจะเดินหน้าผลักดันให้ประเทศไทยมี Constitutional Monarchy ที่สมบูรณ์ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง #ในหลวงสู้ๆ #สู้เพื่อในหลวง #สู้เพื่อประชาธิปไตยปวงชน”
ล่าสุด ดร.ศุภณัฐ หรือ ดร.นิว ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีนายปิยบุตร ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีสถาบัน ยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก แต่ไม่เคยพูดถึงหลักการของระบอบการปกครองแบบ Constitutional Monarchy ที่ถูกต้อง หรือพูดถึงบทบาทของประมุขนอร์เวย์ โดยระบุข้อความว่า
ฟายบูดเป็น “อาชญากรทางวิชาการ” นำเสนอแต่สิ่งที่ผิดๆ บิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก ไม่เคยพูดถึงหลักการของระบอบการปกครองแบบ Constitutional Monarchy ที่ถูกต้อง
ถ้าฟายบูดมีความเลื่อมใสศรัทธาในระบอบ Constitutional Monarchy ตามที่แอบอ้าง ทำไมฟายบูดไม่เคยพูดถึงบทบาทประมุขในประเทศประชาธิปไตยอันดับ 1 ของโลกอย่างประเทศนอร์เวย์บ้างเลย?
พระมหากษัตริย์ของนอร์เวย์ทรงมีบทบาทในฐานะขององค์ประมุขอย่างสมพระเกียรติ ทุกสัปดาห์นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรายงานการทำงาน และรับฟังคำปรึกษาแนะนำจากพระมหากษัตริย์ของนอร์เวย์ ตลอดจนการออกกฎหมายและการตัดสินใจใดๆในที่ประชุมแห่งนี้ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากในหลวงและการลงนามร่วมจากนายกรัฐมนตรี โดยมีองค์รัชทายาทเป็นผู้สังเกตการณ์ และจัดขึ้นเป็นประจำในทุกวันศุกร์ เวลา 11.00 น. ณ พระบรมมหาราชวัง
ในขณะที่พระราชินีของอังกฤษก็มีบทบาทประมุขนี้เช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่นายกรัฐมนตรีอังกฤษประชุมร่วมกับพระราชินีตามลำพัง เป็นประจำทุกสัปดาห์
ทุกอย่างชัดเจนว่าฟายบูดไม่ได้ยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบ Constitutional Monarchy ที่ถูกต้อง ไม่เคยนำเสนอสิ่งที่เป็นคุณต่อสถาบันฯและประโยชน์สุขของประชาชน หากแต่คอยกัดเซาะบ่อนทำลาย สร้างความแตกแยกด้วยการนำเสนอชุดความคิดที่ผิดและบิดเบือนให้กับสังคมอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ผิดๆที่ต่อสถาบันฯ มีเจตนาให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยและความเกลียดชังจากการปั้นน้ำเป็นตัวของฟายบูด หวังให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน ตลอดจนความรุนแรงแบบการปฏิบัติฝรั่งเศสที่ฟายบูดคลั่งไคล้ก็เป็นได้
ฟายบูดจึงเป็นแค่เพียงอาชญากรทางความคิดในคราบนักวิชาการ ที่กล้าบิดเบือนข้อเท็จจริงตลอดจนกฎหมายไปในทิศทางที่ตัวเองได้ประโยชน์ ยกตัวอย่าง เช่น ตอนพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเพราะทำผิดกฎหมาย เขากับลูซเซอร์ทอนก็อ้างหลักบัญชีมาเปรียบเทียบกับกฎหมายการเงินของพรรคการเมืองแบบมั่วๆ ทั้งๆที่เป็นคนละเรื่องเดียวกัน ฟายบูดจึงมีแต่ความกลวงและลวงโลก เป็นนักกฎหมายที่โง่และไร้ยางอายที่สุด ไม่ได้เป็นเสรีนิยมหัวก้าวหน้า หากแต่เป็นเผด็จการทางความคิดที่ล้าหลังและดักดาน หมกมุ่นอยู่กับการสานต่อแนวทางที่ผิดพลาดของคณะราษฎร ตลอดจนการปฏิวัติฝรั่งเศสที่รุนแรงและป่าเถื่อน
อาชญากรทางวิชาการอย่างฟายบูดจึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการคิดแล้วไม่ลงมือทำเอง แต่ผลักให้เป็นภาระของผู้ตามตั้งแต่สมัยที่เป็นอาจารย์ล้างสมองนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วหลบอยู่ข้างหลัง คอยยัดเยียดชุดความคิดบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น หลอกใช้ผู้ตามเป็นเครื่องมืออย่างเอารัดเอาเปรียบ ในขณะที่ตัวเองระวังรักษาตนและคอยเอาตัวรอดอยู่ตลอดเวลา จะสู้ไปทำไมในเมื่อคนคิดอย่างฟายบูดยังไม่กล้าทำ ไม่กล้าออกมานำและรับผิดชอบต่อความคิดของตัวเอง ดีแต่หลบอยู่ข้างหลัง ยุยงปลุกปั่นหลอกใช้ให้ผู้อื่นต้องมาเดือดร้อนและรับเคราะห์แทนฟายบูดอยู่เสมอ