ย้อนเส้นทางการหาเงิน “เพนกวิน” หลังถูกแฉ โดนอายัดบัญชี พบเงินกว่า 6 ล้านบาท

16156

ชำแหละยับ “อาชีพแกนนำ” ย้อนความผิดปกติ เส้นทางการหาเงินของ “เพนกวิน” หลัง “บุญเกื้อ” หลุดปากอายัดบัญชี พบเงิน 6 ล้าน!?

ล่าสุดในวันที่ 20 ก.พ.64 ทางด้านของ นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกกลุ่มไทยภักดี ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ในเรื่องประเด็นของ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร ที่โดนอายัดบัญชีและพบเงินในบัญชี 6 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

“โจษกันไปทั้งเมือง อายัดบัญชี เพนกวิน พบเงินในบัญชีกว่า 6 ล้าน
…..
รับมรดกมาหรือถูกหวยมาจ๊ะ?!”

ซึ่งหากว่าหากย้อนกลับไปเมื่อ 2 ส.ค.63 นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และ แกนนำคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความขอรับเงินบริจาคในการจัดการชุมนุมดังกล่าวว่า

“ประกาศหาท่อน้ำเลี้ยง
หากท่านใดต้องการสนับสนุนการชุมนุมของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถสนับสนุนได้ที่ ..5-3-…..-2 ธนาคาร…….
เราจะใช้เงินจำนวนนี้อย่างคุ้มค่า และถ้าเงินเหลือเราจะนำไปสนับสนุนการจัดม็อบของนักศึกษาในที่อื่นๆ ต่อไป
#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน”

ต่อมาเมื่อข้อความดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่ง รวมทั้งบุคคลที่จะช่วยบริจาคเงินให้ และก็มีบางคนที่เข้ามาทักถึงเรื่องเลขที่บัญชีที่ไม่ตรงกัน ก่อนที่จะมีการแก้ไขให้ตรงกันตามคำทักท้วง ซึ่งความผิดปกตินั้นก็โผล่ออกมาตั้งแต่ต้นรับบริจาคแล้ว

ซึ่งในวันที่ 8 ต.ค.63 ก็ได้เกิดความผิดปกติขึ้นอีก เมื่อทางด้านของ รุ้ง ไผ่ และอานนท์ ได้เปิดบัญชีรับบริจาค โดยใช้ชื่อเพียงแค่ 3 คน ทั้งที่ในขณะนั้นทางด้านของ นายเพนกวิน ถือว่าเป็นแกนนำแถวหน้าของกลุ่มคณะราษฎร ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่า แท้ที่จริงแล้วไม่มีใครไว้วางใจให้เงินผ่านมือทางด้านของ นายเพนกวินหรืออย่างไร ทั้งนี้ก็มีการออกมาแฉอีกด้วยว่า เพราะทางด้านของ นายเพนกวิน ค่อนข้างกินจุ ถือว่าเป็นคำที่สุภาพในการเรียกพวกอมเงิน

บุญเกื้อ เผยเหตุผล เพนกวิน-จ่านิว ไม่ร่วมแถลงการณ์ อานนท์ ยัดข้อหาดื่มจัดกินจุ ฮุบบัญชีเงินม็อบดูแลเอง

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 ทางด้านของ “คณะประชาชนปลดแอก” ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก โดยเป็นการโอนเงินให้กับทางด้าน “กลุ่มคณะราษฎร” เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านบาท เพื่อไว้ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง ในวันที่ 14 ต.ค.63 โดยได้อ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินบริจาคของประชาชน ที่ร่วมบริจาคเมื่อวันที่ 16 ส.ค.63 แต่ก็ไม่มีการเปิดบัญชีให้ตรวจสอบแต่อย่างใด

นอกจากนี้เมื่อช่วงเดือน พ.ย.63 ก็ได้มีกระแสรุนแรงมาก เมื่อประชาชนจำนวนมากเริ่มเห็นถึงความผิดปกติของการใช้เงินมากมายของกลุ่มผู้ชุมนุม เลยจี้ตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยขอให้ทางด้านของท่อน้ำเลี้ยง ออกมาแสดงความเคลื่อนไหวในบัญชีบริจาค แต่แล้วก็ไม่มีอะไรคืบหน้าแต่อย่างใด เนื่องจากทางด้านของ น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือทราย และ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หนึ่งในกลุ่มนายทุนกลุ่มคณะราษฎร 2563 ก็ได้ออกมาประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีการเปิดบัญชีให้ตรวจสอบใดๆทั้งสิ้นแม้แต่บาทเดียว ยิ่งทำให้ความเคลือบแคลงใจต่างๆยังคงกลายเป็นความสงสัย และไม่มีการตรวจสอบใดๆเพิ่มเติม