หลังจากที่ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA)ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อดัง ถึงสถานการณ์ของม็อบ และความสำคัญของกฎหมายมาตรา 112
โดยย้ำว่า 2 ฝ่ายจะอยู่ร่วมกันได้ในสังคมนั้น อีกฝ่ายที่เป็นแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ต้องอยู่ในคุก และมาตรา 112 ที่พวกโจมตีสถาบันอวดครวญว่ากลั่นแกล้งนั้น แท้จริงยังเอาผิดน้อยไปด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงพระเมตตาของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ท่านทรงเป็นกษัตริย์ ผู้ปิดทองหลังพระ ทำงานเงียบ ๆ สั่งงาน และติดตามใกล้ชิด แต่ไม่ยอมที่จะเปิดเผยให้ใครรู้ข่าว กลายเป็นจุดที่ทำให้ฝั่งตรงข้าม และพวกแกนนำม็อบนำมาโจมตีท่านอย่างต่อเนื่อง และยังได้ชำแหละขบวนการล้มเจ้าที่คอยบงการ
ขับเคลื่อนมาเป็นสิบ ๆ ปี มีการจัดตั้ง อย่างหนังสือฟ้าเดียวกัน ก็ทำมาเป็น 10 ปี มีกองทัพไซเบอร์ ต้องการล้มล้างสถาบัน อยากเปลี่ยนระบอบการปกครองในบ้านเรา ให้กลายเป็นสาธารณรัฐ
ล่าสุดดร.อานนท์ ได้เล่าเรื่องราวสำคัญ ที่อยากจะบอกว่า ม็อบรับจ้างล้มเจ้านั้น มีอยู่จริง โดยเล่าว่าผมเคยไปออกรายการนึง มันมีอยู่จริง อาชีพม็อบรับจ้างล้มเจ้า ผมเคยคุยกับแกนนำม็อบคนหนึ่ง
ตัวจริงเขาน่ารัก เป็นคนน่ารัก รักเด็ก ทำอะไรเพื่อเด็ก พออยู่หลังกล้อง ผมคุยกับเขาแล้วมีความสุข แต่พอเข้าหน้ากล้อง เขาเหมือนองค์ลง จะเกรี้ยวกราด พูดแทรกข่มขู่ พอคัตต์ปุ๊บ เขาก็ขอโทษ บอกว่าอาจารย์ขอโทษนะ และบอกว่า ผมต้องทำ เพราะนี่คือ อาชีพผม ผมทำแล้วได้เงิน
เมื่อพิธีกรถามดร.อานนท์ว่า แล้วคิดว่า 2 ฝ่ายจะอยู่ร่วมกันได้จริง ๆ ได้มั้ย แบบไม่มีอะไรต้องเกิดเหตุรุนแรง? ดร.อานนท์ บอกทิ้งท้ายว่า อยู่ได้ แต่ต้องทำตามข้อกฎหมาย อย่าละเมิด เพราะถ้าทำผิด ก็ต้องรับผลกรรมของตัวเองอยู่ดี
อย่างไรก็ตามจากการเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันและตีแผ่ความจริงให้ประชาชนได้รู้ ถึงความเลวร้ายของกลุ่มสามกีบ ที่พยายามล้มล้างสถาบัน ทำให้เฟซบุ๊กของดร.อานนท์ ถูกบล็อกเป็นเวลา 30 วัน เนื่องจากมีคนเข้ามากดรีพอร์ต หลังจากที่แชร์ข่าวหลานสาวของนายธนาธร เรื่องการโพสต์หมิ่นผิดมาตรา 112 โดยขอให้คนที่ติดตามเปลี่ยนไปติดตามความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กใหม่แทนชั่วคราว ซึ่งเหตุการณ์ก็ทำให้เห็นว่า สิ่งที่ดร.อานนท์ พยายามเล่า และสื่อสารมาตลอดว่ามีก๊วนล้มเจ้า เป็นเรื่องจริง เพราะฝั่งตรงข้ามยิ่งร้อนตัวทุกครั้งเวลาที่ดร.อานนท์ตีแผ่เรื่องจริง และแผนการของม็อบ 3 นิ้วออกมาอย่างต่อเนื่อง