วันนี้ (15 ก.พ. 64) ที่ สน.พหลโยธิน นายคริษฐ์ เยาวชนอายุ 18 ปี พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 112
จากกิจกรรมชุมนุมซ้อมต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ห้าแยกลาดพร้าว หลังได้รับหมายเรียกวานนี้(14 กุมภาพันธ์) โดยมีนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง มาให้กำลังใจ พร้อมมอบตุ๊กตาวูดูจากเพจไข่แมวมาให้ ขณะที่ตำรวจได้จัดกำลังควบคุมฝูงชนตรึงกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และมีการตั้งจุดควบคุมคัดกรองบริเวณหน้าโรงพัก
นายคริษฐ์ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำตำรวจพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย แต่ทราบว่าเหตุที่ได้รับหมาย มาจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่มีการนัดกิจกรรมที่ห้าแยกลาดพร้าว โดยตนขึ้นปราศรัยในเวทีย่อยชื่อ “คะน้าราดซอส” วิเคราะห์เรื่องประวัติศาสตร์ตามแบบเรียน รวมถึงยังพูดถึงเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ยืนยันว่าเนื้อหาที่พูดเป็นการวิเคราะห์ตามความเห็นและข้อมูลที่ศึกษามา ไม่มีเจตนาจะอาฆาตมาดร้ายตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานายคริษฐ์ ตามกฎหมายอาญา ม.112 /ม.116/ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ /พ.ร.บ.จราจร/ พ.ร.บ.โฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง และอื่นๆ รวม 7 ข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ภายหลังรับทราบข้อหา นายคริษฐ์ เยาวชน อายุ 18 ปี ได้ออกมายืนยันว่า เบื้องต้นรับทราบข้อหาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว โดยหลังจากนี้จะปรึกษาทนายในการรวบรวมหลักฐานเพื่อนำมายืนยันความบริสุทธิ์ สำหรับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้การเรียนอยู่ระหว่างการสอบ จึงอาจจะต้องเว้นความเคลื่อนไหวไปสักระยะ เเต่ยืนยันจะเเสดงจุดยืนในการเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป
ขณะที่นายปกรณ์ พรชีวางกูร โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “มา สน.พหลโยธิน ให้กำลังใจน้องคริส โดนข้อหา 112 เอาตุ๊กตาวูดูมาให้น้อง บอกน้องไปว่าถ้าเครียดให้เอาเข็มทิ่มตุ๊กตาแล้วสาปแช่ง หรือไม่ก็เอาไฟเผาแม่งก็ได้จะได้อารมณ์ดีแฮปปี้ๆ”
สำหรับนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ตั้งข้อหา “ไม่ได้แจ้งการชุมนุมฯ” มาตรา 10 ของ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งได้ไปมอบตัวแล้วเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่สน.พหลโยธิน ทั้งนี้นายปกรณ์ พรชีวางกูร เป็นแกนนำม็อบปิดห้าแยกลาดพร้าว ซ้อมต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 โดยใช้เป็ดยางสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ในการชุมนุม
ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“วันนี้ (15 ก.พ. 64) ที่สน.พหลโยธิน คริษฐ์ (สงวนนามสกุล) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อายุ 18 ปี สมาชิกกลุ่ม “คะน้าราดซอส” เข้ารับทราบ 8 ข้อหา รวมข้อหามาตรา 112 “ หมิ่นประมาทกษัตริย์” และ มาตรา 116 “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา หลังถูกกล่าวหาว่าขึ้นปราศรัยในเวทีย่อยของการชุมนุม #ม็อบ2ธันวา หรือการชุมนุม #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 63 โดยเขาไม่ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหา แต่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเนื่องจากพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน โทรศัพท์ติดต่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาวานนี้ เบื้องต้นคริษฐ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา โดยตำรวจกำหนดวันยื่นคำให้การเป็นหนังสือเพิ่มเติมภายในวันที่ 17 มี.ค. 64 และปล่อยตัวผู้ต้องหาไป โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้
คดีนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 7 ราย แม้จะถูกดำเนินคดีเดียวกัน แต่ผู้แจ้งความร้องทุกข์นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน สำหรับพริษฐ์, อานนท์, ชินวัตร, ภาณุพงศ์, และจิรฐิตา มีชุติมา เลี่ยมทอง เป็นผู้กล่าวหา ส่วนผู้แจ้งความร้องทุกข์กรณีของคริษฐ์ คือ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ซึ่งเคยรับมอบอำนาจจาก สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ไปแจ้งความร้องทุกข์ข้อหามาตรา 116 กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กเรื่อง 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม
หลังเสร็จกระบวนการรับทราบข้อหา คริษฐ์เล่าให้ผู้สังเกตการณ์ฟังว่า วันนี้จำเป็นต้องหยุดเรียนเพื่อเดินทางมารับทราบข้อหา ซึ่งตนก็เพิ่งทราบวานนี้ว่าถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสังเกตได้ว่าการเปิดช่องว่างให้ประชาชนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษข้อหานี้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย เป็นการสร้างภาระทางคดีให้กับผู้ต้องหา และอาจนำมาใช้เป็นเครื่องมือให้กลุ่มฝ่ายการเมืองต่างๆ นำไปใช้กล่าวหากลั่นแกล้งกันไปมาได้ง่าย”