จากกรณี ที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้แชร์ข้อความของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ระบุว่า
“Means justify the ends”
การกระทำเลวๆ ไม่นำไปสู่ผลลัพท์ที่ดีได้
ผมมีความรู้สึกว่า ฝ่ายเราที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” หลายคนกำลังหลงทาง สร้างข่าว สร้างประเด็นต่างๆ ที่มันไม่เป็นความจริงขึ้นมา เพื่อโจมตีฝ่ายเผด็จการ โดยคิดว่า “เพื่อกำจัดคนเลว เราใช้วิธีการเลวๆ อย่างไรก็ได้” เป็นความเห็นผิด ที่จะนำไปสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในอนาคต
ปรัชญาที่ว่า เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย ก็ไม่คำนึงถึงวิธีการใช้ นั้นมันเป็นปรัชญาของคนเลว ใช้เพื่อชิงอำนาจ หรือการต่อสู้เพื่อแย่งอำนาจของคนสองคนหรือสองฝ่าย โดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด ความผิดชอบชั่วดี ขอให้ได้อำนาจเท่านั้นเป็นพอ
แต่การต่อสู้ทางการเมืองของสังคม เพื่อความดีงามนั้น เราไม่สามารถนำปรัชญานี้มาใช้ได้ เพราะเราจะกลายเป็นฝ่ายที่ไม่มีศีลธรรมเสียเอง
การเมืองสมัยใหม่ ถึงอย่างไรก็ไม่พ้นเลือกตั้งไปได้ หากเราทำเลวๆ เพื่อกำจัดคนที่เราคิดว่าเลว แต่คนที่สนับสนุนพวกเขาก็มีไม่น้อยกว่าฝ่ายเรา เมื่อเห็นว่าเรา “ทำเลวๆ” แทนที่พวกเขาจะเปลี่ยนใจมาสนับสนุนพวกเรา เพราะเห็นว่าฝ่ายเราเป็นฝ่ายที่ดีงาม คนก็จะเห็นว่าเราเป็นฝ่ายที่เลว ใช้วิธีการเลวๆ ทำในสิ่งเลวๆ
บางคนฝ่ายเราเห็นว่า สู้มายาวนานยังไม่เห็นชนะสักที ก็อาจสติแตก ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็เลยเข้าสู่ Darkside นะครับ เมื่อเข้า Darkside แล้วโอกาสที่จะกลับออกมานั้นยากมาก เพราะการกระทำเลวๆ มันจะติดตัวเป็นภาพพจน์อของเราตลอดไป
ทักษิณถูกกระทำมากมาย แต่ทักษิณก็ทนไม่ยอมใช้วิธีการเลวๆ ตอบโต้ จนวันนี้ทักษิณยังยืนอยู่โดยความศรัทธาของคนจำนวนมากไม่เปลี่ยนแปลง แต่ฝ่ายตรงข้ามทักษิณ ต่อให้เคยมีคนนิยมมากมาย แต่คนเกลียดก็เพิ่มขึ้นมากมายเช่นกัน ทำให้ประวัติศาสตร์มีจุดดำอันใหญ่ที่ไม่สามารถลบออกไปได้”
ต่อมา โบว์ได้ชี้แจงถึงบทความดังกล่าว ผ่านข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า
“เมื่อกลางวันโบว์แชร์บทความ “Means justify the ends.” ของคุณ Thai Ariyaskun แล้วเพิ่งรู้ว่ามีสื่อเอาไปเขียนว่าเป็นการพูดกระแทกแอมมี่กับทราย (!).. คือไม่มีไรเกี่ยวกันเลยค่ะ ตอนนั้นยังไม่เห็นข่าวเขาด้วยซ้ำ มั่นใจว่าผู้เขียนก็ไม่ได้เขียนถึงเรื่องนั้นเลยจริงๆนะ งงมากโยงไปได้ยังไง
นี่ถ้าไม่มีคนแคปข่าวส่งมาบอกเมื่อกี้ก็จะไม่รู้เรื่องเลย ใครเห็นอะไรแปลกๆช่วยเข้ามาหาต้นฉบับก่อนนะคะ โบว์ไม่เคยลบโพสต์อะไร
คิดว่าสื่อคงไม่ได้ตั้งใจ แต่วันหลังขอให้ระวังหน่อยค่ะ มาคุยกันก่อนก็ได้ ช่วงนี้คนส่วนหนึ่งมีแนวโน้มจะคิดถึงแต่สิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินแล้วเติมจินตนาการ พูดอะไรกันไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เราตามไปแก้ทุกอย่างไม่ได้นะ แล้วก็มีคนคอยปั่นความแตกแยกในสังคมอยู่แล้ว คนที่เหลือควรช่วยกันสร้างความเข้าใจมากกว่าผสมโรง
ช่วยกันหน่อยนะคะ สังคมเครียดอยู่แล้ว ใครอยากสร้างความเกลียดชังก็ปล่อยไป ขอชวนคนที่เหลือใช้เหตุผลคุยกันดีๆ”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดโบว์ได้โพสต์ข้อความถึงกรณดังกล่าวอีกครั้งโดยระบุว่า
“เราต้องโดนด่าฟรีอีกกี่รอบจากประชากรคุณภาพเหล่านี้? ชินกับเรื่องลวงโลกซะจนพร้อมเชื่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องคิด ไม่ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป ขนาดเพจสถาบันทิศทางไทยพอโดนตำหนิว่าเขียนข่าวมั่ว วันต่อมาทำคลิปแก้ไขให้ทันที แต่หลายคนที่คิดว่าตัวเองหัวก้าวหน้า พร้อมด่ากราดกักขฬะใส่โดยไม่ต้องอ่านเนื้อหา ไม่ต้องหาที่มา ไม่มีข้อสงสัย ขับเคลื่อนด้วยจินตนาการกับความเกลียดชังกันไปวันๆ … ถ้าสนใจอยากพูดถึงเรามากๆก็ขอให้ติดตามทั้งเพจนี้และแฟนเพจ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา – Nuttaa Mahattana ไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกันบ้างค่ะ และไม่ต้องส่งมาถาม โบว์ไม่เคยลบโพสต์ ถ้าหาไม่เจอแปลว่าไม่มี ใครบอกว่ามีหัดขอหลักฐานพร้อมลิ้งค์ที่มาไปค่ะจะได้ไม่ต้องโดนต้มตุ๋นด้วยความจริงเวอร์ชั่นphotoshop .. เป็นห่วง
ป.ล. สื่อที่จะเอาไปลงข่าว ขออย่าเขียนว่าพวกเดียวกันขัดแย้งกัน เพราะเราไม่ใช่พวกเดียวกันกับคนเหล่านี้ เรามีเจตนาที่ต่างกันมากต่อสังคมและมีคนอีกมากที่พร้อมคุยกันด้วยเหตุผลได้ค่ะ
#ตลาดลวง #TheBiggestFakenewsGroup”
ทั้งนี้ ในรูปภาพหนึ่งที่ถูกแนบมาด้วย เป็นรูปภาพของโบว์ที่ได้แสดงความคิดเห็น โดยมีเนื้อหาระบุว่า
“ขนาดเพจอย่างสถาบันทิศทางไทย เขียนข่าวจนเราโพสต์ตำหนิไป วันถัดมาเขาแก้ข่าวให้เลย แล้ววันนี้ก็มีคนแคปภาพข่าวมั่วนั้นแหละ ไปแปะในกลุ่ม Fake news ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ให้คนมาด่าเราตามสันดานเดิมๆ จะไปหวังอะไรได้ คนเปิดตลาดเอง เคยปั้นเรื่องใส่ร้ายกันอย่างเลวทราม จนบุคคลที่ 3 ที่โดนพาดพิงเขาเข้ามาโพสต์ความจริงให้เอง ยังลบคอมเมนต์เขาอะ ชั่วบริสุทธิ์ ไม่มีคำอื่น”
