อัษฎางค์ ซัดแรง “ทราย” ลบหลู่พ่อของคนทั้งแผ่นดิน ย้อนถ้ามีคนมาลบหลู่พ่อทรายบ้างจะรู้สึกอย่างไร!?!

5525

อัษฎางค์ ซัดแรง ทราย ลบหลู่ในหลวงร.9 พ่อของคนไทยทั้งแผ่นดิน ถ้าหากมีคนมาลบหลู่พ่อทรายบ้าง จะรู้สึกอย่างไร

จากที่ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบัททอมบลูส์” นักร้องที่ร่วมกับกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดนหมายจับ “การที่ตำรวจเอาหมาย มาแปะหน้าบ้านพ่อแม่ผม ถือเป็นการกดดันที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ต่อมา แอมมี่ ได้โพสต์ภาพ ใส่ชุดสูท สวมแว่นตา สะพายกล้อง มือถือสมุดอยู่ข้างรถกระบะ พร้อมกับทราย เจริญปุระข้างๆ ทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจาร์ณมากมายว่านายแอมมี่นั้นจงใจถ่ายภาพเลียนแบบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่ชนบทหรือไม่

ทั้งนี้ นางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือทราย เองก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก และทวิตภาพเดียวกันนั้นลงในทวิตเตอร์พร้อมระบุข้อความว่า “ชมเหมือง” ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการลบหลู่พระเกียรติของในหลวงรัชกาลที่ 9

ล่าสุดทางด้าน นายอัษฎางค์ ยมนาาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของทราย เจริญปุระ  ลบหลู่ในหลวงร.9 พ่อของคนไทยทั้งแผ่นดิน ถ้าหากมีคนมาลบหลู่พ่อทรายบ้างจะรู้สึกอย่างไร โดยระบุข้อความว่า

“เจริญปุระที่ปนเปื้อนทราย”
สุรินทร์ เจริญปุระ จาก กระท่อมจันทรัฐ สู่ รุจน์ รณภพ และเจริญปุระที่ปนเปื้อนทราย
สุรินทร์ เจริญปุระ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2474 เข้าเรียนแผนกการช่างโยธา ที่โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ มักกะสัน เมื่อปี พ.ศ. 2494 ปี พ.ศ. 2496 ณ กระท่อมจันทรัฐ ซึ่งอยู่เยื้องๆ สมาคมหัวเฉียว แถวๆ คลองห้วยยาง คือที่พักของสุรินทร์และแม่ซึ่งมีอาชีพตำยาสมุนไพรขาย
สุรินทร์ เจริญปุระ นักเรียนช่างโยธา ลูกชายเภสัชกรพื้นบ้าน กลายเป็น รุจน์ รณภพ เมื่อเขาเกิดมีชื่อเสียงโด่งดังทางทีวีช่อง 10 หาดใหญ่ แล้วไปหลงรักลูกสาวตระกูลดัง ที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ปลื้มฝ่ายชาย เขาจึงพาสาวหนีไปอยู่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตรักที่กรุงเทพฯ ไม่เหมือนในภาพยนตร์ ถึงขั้นที่ฝ่ายหญิงต้องตรอมใจ เพราะรุจน์มีรายได้น้อยแต่กลับเฮฮาปาร์ตี้นอกบ้านอยู่เป็นนิจ ซึ่งหมายถึงการเรื่องผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อยๆ อยู่ๆ เลิกๆ กันนาน 10 ปี มีลูกสาว 4 คน โดยมีลูกคนสุดท้องชื่อ ใหม่ เจริญปุระ แล้วในที่สุดก็เลิกลากันไป
รุจน์ รณภพ เคยมีข่าวฉาวกับนางเอกหมายเลข 1 ของเมืองไทยอรัญญา นามวงค์ แต่รุจน์ รณภพ เคยเล่าว่า อรัญญา นามวงค์ ไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เขาเลิกกับภรรยา แต่อรัญญา นามวงค์ คือแรงผลักดันให้เขาเลิกเป็นนักแสดงแล้วหันมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ด้วยนิสัยการอยากเอาชนะ เพราะอรัญญา นามวงค์ เป็นสาวงามและนางเอกอันดับ 1 ที่มีชายหนุ่มหมายปองมากมาย และทุกคนล้วนเหนือกว่ารุจน์ รณภพ ทำให้เขาอยากจะยกระดับตัวเองให้เทียมหน้า ด้วยการหันไปทำอาชีพผู้กำกับภาพยนตร์ แล้วในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จด้วยการประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับการกำกับภาพยนตร์เรื่องบ้านทรายทอง
ซึ่งทักษิณ ชินวัตรเคยกล่าวไว้ว่า เขาทำเงินล้านแรกในชีวิต จากการที่ไปซื้อหนังเรื่องบ้านทรายทอง ซึ่งรุจน์ รณภพ พูดเชียร์ว่าเป็นหนังดีที่จะทำเงิน จากความเจ้าชู้ของรุจน์ รณภพในที่สุดเขาก็มาลงเอยกับสุภาภรณ์ โดยมีลูกชาย 1 คน หญิง 2 คน หนึ่งในนั้นคือ ทราย เจริญปุระ ผู้ชายเจ้าชู้ ไม่ใช่ผู้ชายเลวเสมอไป เรื่องความรักและเรื่องชู้สาวมันคนละเรื่องกับการเป็นคนดีเลว ที่สำคัญถ้าเขายังคงรักษาหน้าที่การงานให้ดีและหน้าที่ความเป็นพ่อที่ดี
หลังจากรุจน์ รณภพ เสียชีวิต ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้แทนพระองค์ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ รุจน์ รณภพ เป็นกรณีพิเศษ ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
ทราย เจริญปุระ เคยโพสต์ข้อความในความทรงจำ รำลึกการจากไปของคุณพ่อ รุจน์ รณภพ โดยมีใจความส่วนหนึ่งว่า
ถึงคุณพ่อ 11 ปีแล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน จริงๆ อาจจะนานกว่านั้นด้วยซ้ำ เพราะพี่ทรายไม่เคยรู้ว่าความทรงจำถึงพี่ทรายในอาการป่วยไข้ ในช่วงท้ายๆ ชีวิตของคุณพ่อจะหลงเหลืออยู่แค่ไหน
เคยคิดเล่นๆ ว่าเราควรจำกัดคนที่เรารักในชีวิตให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือควรคำนวณพื้นที่หัวใจว่าเหลือแค่ไหนที่พอให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ทั้งที่อาจจะขาดไปบางห้อง แต่เอาเข้าจริงก็ยาก เพราะเราไม่มีวันรู้ว่าชีวิตจะต้องเจอกับอะไร แต่ช่วงเวลาที่ได้เจอกันก็มีคุณค่ามากพอจะสละหัวใจให้ ถ้าเป็นไปได้ “พี่ทรายอยากตายหลังจากคนที่พี่ทรายรักทุกคนเลย” ไม่ใช่หวงแหนอยากจะอยู่ให้นานกว่าใคร แต่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเจ็บปวดและโศกเศร้าเกินกว่าจะเห็นคนที่เรารักต้องมาจัดการกับความตายของคนที่เขารักในชีวิตของเขา
“คุณพ่อสอนพี่ทรายมาดี ขอให้มั่นใจ” แม้จะเป็นเรื่องหัวใจที่สอนกันไม่ได้ พ่อก็ทำให้เห็น ว่าบางสิ่งบางอย่างมันมีคุณค่าที่ประเมินไม่ได้ และถ้าไม่ได้ทำเราจะเสียใจไปชั่วชีวิต
เชื่อเหลือเกินว่าคุณพ่อสุรินทร์ เจริญปุระ หรือ รุจน์ รณภพ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระองค์ก็ทรงรับรู้เช่นกัน แต่ประโยคที่ทรายจรดปากกาเขียนว่า…
“คุณพ่อสอนพี่ทรายมาดี ขอให้มั่นใจ” ถ้าพ่อรุจน์ รับรู้ได้ อาจจะตอบกลับมาว่า นอกจากหมดความมั่นใจแล้ว พ่อยังหมดกำลังใจ ที่ลูกของพ่ออกตัญญูต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งเท่ากับอกตัญญูต่อพ่อ ผู้ซึ่งมีความกตัญญูรู้คุณพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงประโยคที่ทรายเขียนว่า… “เราควรจำกัดคนที่เรารักในชีวิตให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หรือควรคำนวณพื้นที่หัวใจว่าเหลือแค่ไหน เพื่อมอบพื้นที่ในหัวใจที่เหลือให้กับคนที่มีคุณค่ามากพอจะสละหัวใจให้
ถ้าเป็นไปได้ พี่ทรายอยากตายหลังจากคนที่พี่ทรายรักทุกคนเลย”
ซึ่งนั้นมีความหมายว่า… ทรายพร้อมจะตายกับคนที่ทรายรัก ซึ่งมันก็แปลว่าพ่อรุจน์คือหนึ่งในคนที่ทรายรักมากขนาดที่พร้อมจะตายตามไปได้
ในทางกลับกัน… ทรายเคยคิดบางไหมว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ประเสริฐที่คนไทยทั้งชาติรักมากขนาดที่พร้อมจะตายแทนหรือตายไปพร้อมกับพระองค์ ถ้ามีคนมาลบหลู่ดูหมิ่นพ่อรุจน์ของทราย ทรายจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งนั้นอาจเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่ทรายกำลังลบหลู่ดูหมิ่นพระผู้ที่คนไทยยกให้เป็นพ่อของคนทั้งแผ่นดิน
แล้วลองคิดดูสิว่า ทรายกำลังลบหลู่หัวใจของคนกี่สิบล้านคนในแผ่นดินไทย
เจริญปุระที่ปนเปื้อนทราย