“อานนท์” รีบโหน “ธนาธร” เยาะเย้ยรัฐบาล “วัคซีนขายไม่ได้” สุดท้ายหน้าแหก เพราะ รัฐฯเตรียม แจกฟรีทั่วประเทศ

2596

เห่ากันเสียงดังเลยนะ!! “อานนท์” รีบโหน “ธนาธร” เยาะเย้ยรัฐบาล “วัคซีนขายไม่ได้” สุดท้ายหน้าแหก เพราะ รัฐฯเตรียม แจกฟรีทั่วประเทศ!?

จากกรณีที่เมื่อนวันที่ 18 ม.ค.63 ทางด้านของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” ซึ่งเนื้อหาหลักๆก็จะเป็นการโจมตีรัฐบาลเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ อีกทั้งยังได้ทำการตั้งคำถามต่อความไม่โปร่งใสว่า ทำไมประเทศไทยได้วัคซีนช้า และทำไมรัฐบาลถึงจัดหาวัคซีนได้ไม่ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม

จนกลายเป็นประเด็นให้ทางด้านของ กลุ่มผู้สนับสนุนม็อบ นำออกมาขยี้ในประเด็นดังกล่าวกันอย่างสนุกสนาน โดยจะใช้คำว่า “วัคซีนพระราชทานฯ” มาขยายความต่อ เพื่อนำมาหมิ่นสถาบันฯ

ซึ่งล่าสุดทางด้านของ นายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร ที่มักจะโพสต์ข้อความ และปราศรัย จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่เป็นประจำ ก็ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวด้วยว่า “เรื่อง #วัคซีนพระราชทาน คงขายไม่ได้แล้ว คนเขารู้ทัน โลกมันมีอินเตอร์เน็ตแล้วครับ ปิดหูปิดตากันไม่ได้แล้ว”

โดยมุ่งหวังเพื่อต้องการที่จะดิสเครดิต ทั้งรัฐบาล และหมิ่นสถาบันฯ ว่าวัคซีนโควิดนี้ จะมีการขายให้กับคนไทย และเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับผลกำไรจากการขายวัคซีนโควิด-19 แต่ในความเป็นจริงแล้วแทบไม่ใช่อย่างที่ นายอานนท์ได้กล่าวไว้

เพราะเมื่อวันที่ 16 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทางด้านของ กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งเรื่องให้กับทางด้านของ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณา ให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนไทยทุกคน ฟรี เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับวัคซีน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะมีฐานะยากจน หรือร่ำรวย จะได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน

ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่า วัคซีนโควิด-19 จะมีการฉีดให้ฟรีสำหรับคนทั้งประเทศ ไม่ได้เป็นอย่างที่ นายธนาธร หรือ แกนนำคณะราษ พยายามโจมตีว่า นี่คือการหากินกับผู้ป่วย ตามที่คนเหล่านั้นได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด แถมยังทำให้ได้ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ต้องการแค่จะโจมตีรัฐบาล จาบจ้วงสถาบันฯ โดยที่ไม่เคยศึกษาหาข้อมูลแต่อย่างใดเลย

ทั้งนี้หากว่าย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค.64 ทางด้านของ นายอานนท์ ก็ได้ดิสเครดิต การทำงานของบริษัทสยามไบโอไซน์ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยครั้งนั้นได้โพสต์ถึงเหตุผลการทำงานที่ล่าช้าว่า

“รู้แหละ ว่าช้าเพราะอะไร คำถามคือ มีการประมูลแข่งกันหรือไม่ ทำไมไม่ให้เอกชนอื่นทำ ทำไมต้องบริษัทของกษัตริย์วชิราลงกรณ์”

ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นก็พอจะเห็นได้แล้วว่า ในหลวงทั้ง 2 พระองค์ได้มีสายพระเนตรอันยาวไกล ที่มองเห็นความสำคัญในการก่อตั้งบริษัท เพื่อต้องการช่วยเหลือประชาชน และทำการผลิตวัคซีน ผลิตยา เพื่อจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงมากนัก ช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน และถึงแม้ว่าวันนี้ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะไม่อยู่แล้ว แต่ประชาชนคนไทยก็ยังได้พึ่งพระบารมีของพระองค์ท่าน นำมาซึ่งความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ในท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังยากลำบากเช่นนี้