จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก Matichon Weekly มติชนสุดสัปดาห์ ได้เผยแพร่แบนเนอร์และเนื้อความบางส่วนของบทความ คำหยาบ เสมอภาค และลัทธิโรแมนติกนิยม โดย นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ มีเนื้อหาระบุว่า
“ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษาเพียงฝ่ายเดียวที่เห็นว่าคำหยาบคือเครื่องมืออย่างดีในการทำลาย “ช่วงชั้น” อันแสนละเอียดอ่อนของสังคมและวัฒนธรรมไทย คำที่ใช้กับเพื่อนเล่นได้ ก็เป็นคำที่ใช้กับประธานรัฐสภาได้ (อย่าว่ากับนายกฯ และเหล่ารัฐมนตรีต่าง ๆ เลย)
ในทัศนะของผม ความหมายใหม่ของคำหยาบคือความเสมอภาค คำหยาบในคนรุ่นผมคือความสนิทสนม แม้ความสนิทสนมคือความเสมอภาคอย่างหนึ่งแน่ แต่เป็นความเสมอภาคที่จำกัดเฉพาะคนที่สนิทสนมกัน ส่วนความเสมอภาคในความหมายใหม่คือความเสมอภาคที่เป็นสากล – เพราะคุณชวนไม่ใช่เพื่อนเล่นของนักศึกษานั่นแหละ ที่ทำให้เห็นความหมายใหม่ของคำหยาบได้ชัดขึ้น”
ต่อมา น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อบทความดังกล่าว ระบุว่า “มันไม่ใช่แค่ทำลายช่วงชั้นอะไรหรอก มันคือการทำลายความปราณีตทางความคิดด้วย เดี๋ยวนี้การพูดคุยกันด้วยความอดทน แข่งกันใช้เหตุผล หายากแล้ว มาถึงก็พ่นคำด่าหยาบคายใส่กัน ก็ส่งเสริมกันเข้าไปค่ะ ถ้าอยากได้สังคมแบบนั้น เราไม่เอาด้วย และจะไม่ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมแบบนั้นให้ลูกตัวเอง”
ล่าสุด นายพิชิต ชัยมงคล อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก “Pichit Chaimongkol” ระบุว่า รองรับความรุนแรง ไม่คิดว่าความ กักขฬะ ของผู้ชุมนุม จะถูกรับรองว่าเป็นเครื่องมือแห่งความเสมอภาค จากศาสตราจารย์นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง
การใช้ภาษาที่รุนแรง เป็นการท้าทายวัฒนธรรมเก่าของไทยแบบตรงกันข้าม ความรุนแรงทางภาษา ไม่ใช่เครื่องมือหลักของการเปลี่ยนแปลง แต่มันเป็นเครื่องทำลายการเปลี่ยนแปลงมากกว่า แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากการร้องขอ แต่การใช้ความ กักขฬะ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่นำสู่การเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน
ผลต่อเนื่องซึ่งนำมาจากความหยาบช้าทางภาษา คือ ความรุนแรงในการแสดงออก มันเป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องมาจากการใช้ภาษา แต่คนกลุ่มนี้กลับเรียกร้องสิทธิ์เมื่อตนเองถูกกระทำ ไม่คำนึงถึงตอนตนเองกระทำคนอื่น นี่คือการรับรองการยกระดับความรุนแรง เหมือนรับรองเหี้..ว่าเป็นจระเข้
ศ.นิธิ ฯ จะรับผิดชอบจากความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นแบบเสมอภาคไหม (แน่นอนอาจมีนักกิจกรรมโลกสวยเปลี่ยนโลกด้วยวาทกรรมบอกว่า รัฐใช้ความรุนแรงทางกฎหมายมารังแกพวกเขา แต่อย่าลืมว่า พวกคุณใช้พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายเช่นกัน)
ด้าน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยว่า แอคชั่นล้อเลียน ร.9 คือ #การประกาศสงครามความเคารพ ที่ประชาชนเขามี หรือนี่เป็น #วิธีทำลายช่วงชั้นอีกขั้นหนึ่ง ตามที่ ศ.นิธิฯกล่าวไว้ คือ #การใช้ความหยาบคายด้วยการแสดงออก ต่อไปอย่าอ้างว่าถูกรังแกเลยครับ เพราะในเมื่อคุณยังเคลื่อนไหวรังแกคนอื่นอยู่ ตั้ม พิชิต ชัยมงคล
