ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจ ประชาชน 97% เห็นด้วยที่ “กระทรวง DE” แจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับ “ธนาธร” และสาวกปลดแอกโจมตีสถาบันฯ
จากกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ได้ออกมาไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?” เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่าด้วยการจัดหาและผลิตวัคซีนโควิดในประเทศไทย ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง โดยพูดโจมตีไปถึงบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิดให้คนไทย
ทางด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนายธนาธร ออกมาไลฟ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ทั้งนำไปโยงกับการเมืองและใช้คำว่า วัคซีนพระราชทาน ว่า ตนถือว่าเป็นการบิดเบือน ทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (24 มกราคม 2564) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง กระทรวง ดี อี กับ ม. 112 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,807 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 21 – 24 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงความเห็นต่อ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แจ้งความดำเนินคดีนายธนาธรฯ และคนอื่น ๆ ในขบวนการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.4 เห็นด้วยในขณะที่ร้อยละ 2.6 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงการบังคับใช้กฎหมายตาม ม.112 เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องใช้สิทธิตามกฎหมายบ้านเมืองเพื่อความสงบสุขของประเทศและประชาชน ไม่ใช่เรื่องการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 เห็นด้วยว่า เป็นเรื่องสิทธิของแต่ละคนตามกฎหมายบ้านเมืองเพื่อความสงบสุขของประเทศและประชาชนมากกว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง ในขณะที่เพียงร้อยละ 7.0 ไม่เห็นด้วย
ที่น่าสนใจคือ หลังจากที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตาม ม. 112 พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.7 พอใจนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในขณะที่ร้อยละ 2.3 ไม่พอใจ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.4 สนับสนุนนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดการกวาดให้เรียบ ขบวนการจาบจ้วง ล่วงละเมิดคุกคามในหลวงและทุกพระองค์ในสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่เพียงร้อยละ 1.6 ไม่สนับสนุน
ที่น่าเป็นห่วง คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.0 ระบุเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุดที่คนในชาติจะแตกแยกมากขึ้น ถ้าปล่อยให้มีการล่วงละเมิด จาบจ้วง คุกคามในหลวงและทุกพระองค์ในสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 14.3 ระบุเป็นไปได้ปานกลาง และร้อยละ 10.7 ระบุเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยถึงเป็นไปไม่ได้เลย
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “กระทรวงดีอี กับ ม.112” ในผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงฯ กำลังทำตามความคาดหวังและการสนับสนุนของประชาชนในการออกมาปกป้องรักษาเสาหลักของชาติเพื่อยับยั้งขบวนการที่ใช้ข้อมูลเท็จหวังทำลายสถาบันหลักของชาติหรือทำให้สั่นคลอนและสร้างความแตกแยกของคนในชาติ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ดังนั้น ประชาชนส่วนใหญ่จึงสนับสนุน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดีอี “ใช้กฎหมายคุ้มครองสิทธิทุกคน” เป็นกลไกของประเทศเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ใช้สิทธิตามกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมโดยทุกคนย่อมได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย แนวทางนี้จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองและไม่ใช่การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง “การเมือง เป็นเรื่อง การเมือง” เพราะใครก็ตามที่ถูกล่วงละเมิดสิทธิ ถูกคุกคามย่อมต้องอาศัยกฎหมายหยุดการคุกคามนั้น จึงดีกว่านักการเมืองบางคนพาคนลงถนน คุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ที่เคยทำกันในช่วงปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า นายธนาธร จะถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในมาตรา 112 หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา นายธนาธรได้ออกมาเคลื่อนไหว โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังมีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อใส่ร้ายสถาบันมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้มีประชาชนออกมาเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับนายธนาธร แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ