อดีตบิ๊กข่าวกรองฉะม็อบใช้เดรัจฉานวิชา คนทำจะถูกของเข้าตัว แฉกันอีกอย่าแถชุมนุมสงบ

2015

ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนในสังคมอย่างมาก หลังจากผ่านเข้าสู่ปี 2564 มานี้ การชุมนุมแต่ละครั้งของม็อบ มักจะจบลงด้วยการปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือไม่ก็เป็นการทำลายทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปทุกครั้ง

โดย ล่าสุดจากเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา การชุมนุมค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยความรุนแรง ซึ่งเป็นความชัดเจนว่าในขณะนี้ทางด้านของกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังยกระดับความรุนแรง ตามที่นักวิชาการหลาย ๆ ท่านได้เคยกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา

ขณะที่ทางการ์ดรุ่นใหญ่อย่าง นายสมบัติ ทองย้อย ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมของกลุ่มม็อบชุมนุมรัว ๆ ด้วยว่า “ครูใหญ่เข้าไปเจรจา เราก็เข้าไปด้วย ข้างนอกก็เฮิ่มๆๆๆ จะบวก จะบวก ส่วนรถเครื่องเสียงใครไม่รู้ นับถอยหลัง 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 สิ้นเสียง 1 ระเบิด ประทัดยักษ์ ขวดน้ำสารพัดลอยมา ทั้ง ๆ ที่เรากับครูใหญ่ยังอยูในฝั่งตำรวจ เรานี่มุดหัวซุกหัวซุนกับครูใหญ่ นักข่าว พอหลุดออกมาได้ด่าโลด เขวี้ยงหาพ่…มึงหรือ พวกเรายังอยู่ข้างในกันอยู่เลย แล้วถ้าหล่นใส่หัวพวกเดียวกันเองจะว่ายังไง โมโห ไม่ประสานกันเลย อ่านต่อในรูปที่แปะมานะครับ มีคนเล่าต่อแล้ว เพราะที่เขาเล่านั้นเราก็เห็นแบบนั้นเหมือนกัน”

ไม่เพียงแต่สมบัติ ทองย้อยเท่านั้นที่ออกมาโพสต์ข้อความแฉเรื่องดังกล่าว เพราะตามเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ก็มีการเผยภาพการกระทำรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ทางด้าน ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าการชุมนุมเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรม แต่การใช้อาวุธทำร้ายตำรวจและทรพย์สินเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

กฎหมายให้เสรีภาพแก่เราในการแสดงความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้ความเท็จหมิ่นคนอื่นได้ การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญจะต้องสงบสินติ ปราศจากอาวุธ การขว้างหิน ปาระบิด ไม่อาจกล่าวว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ สิ่งที่ใช้ก่อความรุนแรงไม่ใช่สิ่งที่หาได้ในพื้นที่การชุมนุม จะต้องมีการเตรียมมา ทั้งระเบิดควัน ระบิดปิงปอง และค้อนสำหรับงัดตัวหนอนริมถนนมาขว้างตำรวจ ภาพที่บันทึกชัดเจนอย่างนี้ จะแถ จะโกหก ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่อย่างไรกันอีก ตำรวจเขาพูดห้ามปรามก็ไม่ฟัง และชัดเจนว่าผู้ชุมนุมเป็นคนก่อความรุนแรง

ด้าน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “อย่าใช้เดรัจฉานวิชา เห็นข่าวความพยายามของม็อบสามนิ้วที่จะไปยังหน้าศาลหลักเมืองให้ได้ แม้สุดท้ายจะไม่ได้เข้าไปในศาล แต่การเทน้ำ กล่าววาจาอะไรต่าง ๆ นานา​ จะโมเมถือว่าเสร็จพิธีก็ได้

อยากบอก​ม็อบ​ว่า​ มันไม่​มีประโยชน์​ บ้านนี้เมืองนี้ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง คนรุ่นใหม่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ แต่มีแน่ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสร้างพระพุทธขึ้นองค์หนึ่งทรงตั้งพระนามว่า​ พระสยามเทวาธิราช ด้วยทรงมีความเชื่อว่า นี่คือศูนย์รวมของบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกบ้านป้องเมือง มิให้ได้รับภยันตรายใด ๆ

จำได้ไหม มีความพยายามของคนบ้าที่จะทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ หลายครั้งหลายครา ทุบทำลายพระพรหมเอราวัณ คนทุบถูกรุมตีตาย เพื่อปิดปาก คนที่อ้างตัวเป็นพราหมณ์ใช้เลือดสีแดงสาดไปที่หน้าทำเนียบ แล้วสุดท้ายเป็นไง

เดรัจฉานวิชาจะใช้กับบ้านเมืองทึ่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมันทำไม่ได้​ ทำไม่สำเร็จหรอก คนทำจะถูกของเข้าตัว อย่าเชื่อเรื่องเดรัจฉานวิชา แน่จริง​ ให้คนคิดคนสั่งทำเอง อย่าหลงเชื่อว่า ทำแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มันต้องคิดดีทำดี กิจการดี ๆ ถึงจะสำเร็จ”