ไทยภักดีแถลงการณ์ มัดรวมตะวัน-ก้าวไกล ลั่นคนไทยไม่ปรองดองกับความชั่วเลวทราม ตอกหน้าชัยธวัชอย่าตีกิน

6552

จากที่วันนี้ 12 กุมภาพันธ์ 2567 พรรคไทยภักดีได้ออกแถลงการณ์  เรื่อง พรรคก้าวไกลหยุดให้ท้ายพวกป่วนขบวนเสด็จ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากตาอการกระทำของกลุ่มตะวัน ทะลุวัง

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กลุ่มทะลุวังได้คุกคามขบวนเสด็จของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ต่อเนื่องด้วยเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มทะลุวังและกลุ่ม ศปปส.ที่บีทีเอสสยาม ซึ่งมีบุคคลหลายฝ่ายได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว

โดยเฉพาะความคิดเห็นของหัวหน้าและแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคน ที่รับไม่ได้กับกลุ่ม ศปปส. ที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมืองพร้อมเสนอ การนิรโทษกรรมทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดอง แก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมไทย จากบริบทเหตุการณ์ทางการเมืองดังกล่าว พรรคไทยภักดีมีความคิดเห็นที่อยากทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนชาวไทยใน 3 ประเด็นสำคัญคือ

  1. การทำความเข้าใจกับบริบทเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ต้องมองในภาพกว้างองค์รวมอันเป็นเหตุเป็นผลต่อเนื่องสืบกันมา มิใช่มองแบบแยกส่วนเฉพาะเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสาเหตุอันแท้จริงของปัญหานั้นๆ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงอันเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนเริ่มต้นจากการที่ “ตะวันทะลุวัง” คุกคามขบวนเสด็จของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แถมได้บิดเบือนให้ร้ายบูลลี่ขบวนเสด็จฯ ว่าปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ถนน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ซึ่งการกระทำของ “ตะวันทะลุวัง” เป็นความเหิมเกริมมิบังควรอย่างยิ่ง และได้สร้างความเคียดแค้นไม่พอใจให้แก่พสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดีเป็นจำนวนมาก แต่แกนนำพรรคก้าวไกลหลายคนกลับบอกว่าการกระทำของ “ตะวันทะลุวัง” เป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ

ในขณะที่เมื่อเกิดเหตุปะทะกันของกลุ่ม ศปปส. ซึ่งเป็นกลุ่มประชาชนผู้จงรักภักดีกับกลุ่มทะลุวัง ที่บีทีเอสสยาม โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฏผ่านสื่อฯ ต่างก็ใช้ความรุนแรงด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่หัวหน้าพรรคก้าวไกลกลับประนาม กลุ่ม ศปปส. แต่เพียงฝ่ายเดียว เป็นความลำเอียง และคิดแบบแยกส่วนอย่างสุดขั้วโดยไม่ได้คำนึงถึงความเหิมเกริมเลวร้ายที่ “ตะวันทะลุวัง” ได้กระทำไปก่อนหน้านี้เลย

  1. หัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องทำความเข้าใจกับประโยคสำคัญ 2 ประโยคนี้ให้ดี ระหว่าง “ความเห็นต่าง” กับ “ความชั่วช้าเลวทราม” เพราะการแสดงออกของกลุ่ม ศปปส. และบุคคลต่างๆ ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มิใช่เพราะมีความเห็นต่างจาก ตะวันและกลุ่มทะลุวัง

แต่เพราะทนไม่ได้ต่อ “ความชั่วช้าเลวทราม” ของตะวันและกลุ่มทะลุวังที่ได้กระทำการหยามหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หลายกรรมหลายวาระจนเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ในชั้นศาล และล่าสุดคือการคุกคามขบวนเสด็จของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  ต้องใช้สติปัญญาทำความเข้าใจกับประเด็นนี้ให้ละเอียดถ่องแท้ อย่าคิดแบบผิวเผิน ถากๆ หยาบๆ เท่านั้น

  1. หัวหน้าพรรคก้าวไกล อย่าได้ “ตีกิน” เอาประเด็นนี้เป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งประชาชน และสังคมไทย ต่างก็รู้เท่าทัน พรรคก้าวไกลว่ามีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ การนิรโทษกรรมนักโทษคดี ม.112 ทั้งหลาย ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่จะนำไปสู่ความปรองดอง สมานฉันท์ของประชาชนในชาติแต่อย่างใด เพราะตราบใดที่ยังคงมีขบวนการล้มล้างการปกครองฯ บ่อนเซาะทำลายสถาบันเบื้องสูง อยู่ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทั้งประเทศก็ย่อมต้องต่อสู้ต่อต้านขบวนการที่ชั่วช้าเลวทรามเหล่านี้จนถึงที่สุด ไม่ยอมปรองดองสมานฉันท์กับ “ความชั่วช้าเลวทราม” อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามพรรคไทยภักดี ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาต่างๆในทุกๆมิติ ไม่ว่าการทำร้ายบุคคลในครอบครัว การทำร้ายบุคคลอื่นๆ ม็อบป่วนเมืองทะลุแก๊ส ม็อบทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ม็อบเผาทำลายทรัพย์สินของราชการ เผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์

ม็อบขัดขวางขบวนเสด็จสมเด็จพระราชินีฯ ฯลฯ ซึ่งแกนนำพรรคก้าวไกลทั้งหลายก็ควรต้องทบทวนเหตุการณ์ที่มวลชนฝ่ายตนเองใช้ความรุนแรงในอดีตในทุกๆ มิติ ด้วยเช่นกัน

ด้วยความนับถือ

พรรคไทยภักดี

12 กุมภาพันธ์ 2567