อีก 3 วันดีเดย์ พิธีสาบานตนปธน.คนที่ 46 ของสหรัฐฯ สัญญาณความรุนแรงเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ต้องยกระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด มีการล้อมรั้วลวดหนามรอบรัฐสภา ต้องระดมกำลังหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิ 25,000 นาย ประจำการทั้งภายในภายนอก และคำเตือนเอฟบีไอที่ว่า กลุ่มติดอาวุธอาจวางแผนบุกอาคารรัฐบาลใน 50 รัฐทั่วประเทศ เพื่อประท้วงโจ ไบเดนเข้าพิธีสาบานตนวันที่ 20 ม.ค.นี้ ทำคนอเมริกันเสียขวัญและทุกข์หนัก ทั้งโควิดกลายพันธ์ุระบาดสาหัส สงครามขัดแย้งในหมู่คนอเมริกันใกล้ระเบิด จับตาบทบาททหารท่ามกลางวิกฤติ และไบเดนประกาศจะใช้อำนาจพิเศษจัดการแก้ปัญหาทั้งโควิด เศรษฐกิจ การเมือง
วันศุกร์ที่ 15 ม.ค.พลเอกแดเนียล โฮแคนสัน ผู้บัญชาการ สำนักงานกองกำลังพิทักษ์มาติภูมิ ยืนยันจำนวนกำลังพลส่งประจำการ คุ้มกันรัฐสภาจำนวน 25,000 นาย ทั้งทางบกและทางอากาศ
มิติใหม่ประชาธิปไตยต้นแบบคุมเบ็ดเสร็จ
ทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีและเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีอำนาจขนาดกดปุ๋มนิวเคลียร์ได้ แต่เหล่าเสนาธิการทหารออกแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนไบเดนเป็นประธานาธิบดีทั้งที่อีกไม่กี่วันก็ได้เป็นแล้ว เป็นการแสดงพลังต่อต้านทรัมป์อย่างเปิดเผยในขณะที่วางเฉยก็ได้ ท่าทีแบบนี้แหละคือ ท่าทีของการเมืองเลือกข้าง แบบนี้ก็รัฐประหารเราดีๆนี่เอง เหล่าเสนาธิการทหารกำลังก่อกบฎกับทรัมป์ที่เป็นผู้บังคับบัญชา เพราะทรัมป์ยังคงเป็นประธานาธิบดีจนถึงวันที่ 20 ม.ค. ใครที่เชื่อว่าทหารปกป้องประชาธิปไตยไม่ยุ่งการเมือง คงลืมบทบาทสังหารโหดในทุกสนามรบ ที่ตะวันออกกลาง เอเซีย อาฟริกาไปแล้วกระมัง ประเทศเหล่านั้นเขามาทำลายปชต.ของอเมริกาตรงไหน ครั้งนี้ได้รับไฟเขียวให้ใช้อาวุธสังหารคนอเมริกันด้วยกันโดยไม่ไว้หน้า ถ้าหือเข้ามาในพิธีสถาปนาอำนาจอีกด้วย
ไม่ใช่แค่วอชิงตันดีซี ทุกมลรัฐที่เอฟบีไอระบุว่าจะมีกลุ่มติดอาวุธมาประท้วง เตรียมการป้องกันเต็มที่ ทั้งตำรวจและหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิ
พลังอำนาจของสื่อทั้งสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย ได้เปลี่ยนโฉมสหรัฐให้เข้าสู่ยุคแห่งการควบคุมเบ็ดเสร็จ โดยถือเอากรณีของทรัมป์เป็นข้ออ้าง คนอเมริกันจะรู้ได้เท่าที่ ผู้กุมอำนาจบิ๊กเทคต้องการให้รู้ ยิ่งกว่ากบอยู่ในกะลาเสียอีก
และรัฐสภาทั้งสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา ทั้งสส.และสว.หลังจากเข้าประจำตำแหน่งอย่างเป็นทางการ จะครองเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จสะดวกสบายในการ ออกกฎหมาย แก้กฎหมายได้ตามนโยบายของพรรคเดโมแครต
ความขัดแย้งแตกแยกฉีกสังคมอเมริกายากประสาน
สถานการณ์ในวอชิงตัน ดีซี. ตอนนี้เคร่งเครียดมาก ดอน เบเยอร์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐเวอร์จิเนีย พรรคเดโมแครตกล่าวว่า อันตรายที่คุกคามวอชิงตัน ดีซี. เป็นเรื่องจริงและเมืองก็อยู่ในภาวตึงเครียดสูงสุด “ใครก็ตามที่สามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่รอบสภาคองเกรสและสวนอนุสรณ์สถานในสัปดาห์นี้ควรทำเช่นนั้น” เบเยอร์เขียนใน ทวิตเตอร์
จากการสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวและบริษัทสำรวจความเห็นAxios-Ipsos พบว่า ชาวอเมริกันราว 4 ใน 5 คนกล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าสหรัฐกำลังแตกเป็นเสี่ยง การสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้รวมการสัมภาษณ์ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกว่า 1,000 คนตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุธสัปดาห์ที่แล้วพบว่า 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยอย่างมากหรือค่อนข้างเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “อเมริกากำลังแตกเป็นเสี่ยง”
ล่าสุดแทรกซึมการ์ดรักษาความปลอดภัยเหลว
วันที่ 17 ม.ค.2564 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น, รอยเตอร์, เอเอฟพี รายงานว่า ตำรวจดีซีจับหนุ่มเวอร์จิเนีย เวสลีย์ อัลเลน บีเลอร์อายุ 31 ปีถือปืนพก Glock 17 9 มม. ที่ไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมกับกระสุนในลำกล้อง รวมถึงกระสุน 9 มม. มากกว่า 500 นัดและกระสุนปืนลูกซอง 21 นัด ตามรายงานของตำรวจ เขามีบัตรปลอม เพื่อเตรียมใช้ผ่านเข้าไปในงานสาบานตนของไบเดนด้วย ตำรวจตั้งข้อหามีอาวุธปืนไม่ขึ้นทะเบียน และครอบครองกระสุนปืนผิดกฎหมายแล้วสั่งฟ้องทันที
ชาร์ล็อตต์ บีเลอร์แม่ของเขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าลูกชายของเธอพกอาวุธไปเพราะทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งเขาทำมาหลายปีแล้ว ส่วนพ่อของ บีเลอร์กล่าวว่าลูกชายของเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมรักษาความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกับตำรวจสภาคองเกรสและหน่วยทหารพิทักษ์มาตุภูมิและลูกชายของเขาอาจลืมปืนส่วนตัวไว้ในรถบรรทุก
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐระบุว่า บีเลอร์มีใบอนุญาตการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ยังไม่หมดอายุ และได้รับการอนุมัติให้มีปืนพก ปืนลูกซอง หรือปืนไรเฟิลลาดตระเวนในขณะที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ได้