ทรัมป์ถูกเนรเทศจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกระบบแล้ว แต่ยังดิ้นสู้ ใช้แพลตฟอร์มที่เล็กกว่าและประกาศสร้างของตัวเอง แย้มว่าอีลอน มัสก์จะเป็นผู้ทำให้ คาดไม่น่าสำเร็จใครจะยอมแลกอนาคตธุรกิจมหาศาลกับผู้ใกล้หมดอำนาจอย่างทรัมป์ จับตาการตอบโต้กลับจากทรัมป์ ทั้งการเมืองลงถนน การใช้กฎหมาย และโซเชียลมีเดีย เป็นอุทาหรณ์ประเทศไทยว่า ไม่นานเราอาจต้องพบเจอการก่อกวนรอบใหม่ จากกลุ่มผู้หลงมัวเมาปชต.บ้าคลั่ง เตรียมระดมต่อต้านรัฐบาลลุงตู่ท่ามกลางการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
สภาล่างถอดถอน-สภาสูงยังต้องลุ้น
สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ นำโดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนฯ ลงมติเมื่อ 13 ม.ค.2564 เดินเครื่องเร่งถอดถอนทรัมป์ครั้งที่ 2 ข้อหายุยงปลุกปั่นม็อบก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อ 6 ม.ค. 2564 จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เพื่อพยายามขัดขวางสภาคองเกรสรับรอง โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ โดยกล่าวหาโจ ไบเดน โกงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เหลือเวลาอีกไม่ถึง 5 วัน ทรัมป์ก็จะหมดวาระ และโจ ไบเดน ก็จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 ม.ค.นี้แล้ว นอกจากนั้น วุฒิสภาที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ โอกาสที่ มติของ ส.ว.จะถึง 2 ใน 3 ลงดาบอิมพีชเมนต์ทรัมป์ ไม่ใช่เรื่องง่าย
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ของสภาคองเกรส ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ ที่แสดงให้เห็น ว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภา และมีสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคน’แตกแถว’ โดดหนีพวกเดียวกันที่มีแววแพ้ อ้างแสดงว่ามีความคิดเป็นตัวของตัวเอง ต้องการไล่ผู้นำแบบทรัมป์ และที่สำคัญถ้าจับกุมคุมขังไม่ได้ก็เป็นการดิสเครดิต ให้ตายทางการเมืองไม่อาจกลับมาเลือกตั้งแข่งกับเดโมแครตได้อีกไม่ว่าจะสมัยไหน ซึ่งก็ได้ผล เพราะโดยสังคมสาธารณะ ทรัมป์ได้ตายสนิททางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว
ม็อบStorm Red เตรียมประท้วง 50 รัฐทั่วประเทศและD.C.
เรื่องที่สร้างความหวาดวิตกแต่คนอเมริกัน และคณะบริหารโดยเฉพาะที่ต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนเดโมแครต ต่างหวั่นเกรงว่า แม้ทรัมป์จะพ้นตำแหน่งไปแล้ว ทัศนคติของชาวอเมริกันที่มีแนวคิดแบบเดียวกันกับทรัมป์ ซึ่งทุกฝ่ายประเมินว่ามีทั้งอนุรักษ์นิยม และมีทั้งกลุ่มหัวรุนแรง อาจชวนกันออกมาก่อความรุนแรงต่อต้านรัฐบาลโจ ไบเดนอย่างยืดเยื้อยาวนานได้
(FBI) ได้รับรายงานข่าวกรองมาว่าบรรดาชาวอเมริกัน สายฮาร์ดคอร์เรียกตัวเองว่า Storm Red ที่สนับสนุนทรัมป์ มีแผนจะก่อม็อบติดอาวุธทั้งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และตามเมืองเอกของรัฐต่างๆ ทั่วทั้ง 50 รัฐของอเมริกา ถ้าทรัมป์โดนปลดจากตำแหน่งจริง รวมทั้งจะก่อเหตุรุนแรงในวันสาบานตนของไบเดน จนทำให้เกิดภาพ กองกำลังผสม ทหารพิทักษ์มาตุภูมิ หน่วย USSS (รักษาความปลอดภัยผู้นำสหรัฐ) กว่า 20,000 นายกระจายกำลังคุ้มกันรัฐสภา เตรียมรับมือเหตุการณ์ไม่สงบในวันพิธีสาบานตน 20 ม.ค.ที่จะมาถึง
เรื่องนี้ ทรัมป์ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ตั้งแต่ 12-24 ม.ค. เพื่อเปิดทางให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประสานการทำงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยและเตรียมรับมือเหตุรุนแรง นั่นหมายถึงว่า โดยทางนิตินัยและพฤตินัย ตราบใดที่ยังอยู่ในฐานะประธานาธิบดี ทรัมป์ยังเป็นคนที่ควบคุมสั่งการกองทัพทั้งส่วนกลาง และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ นี่จึงเป็นเหตุที่ใครก็มาอุ้มทรัมป์ลงจากเก้าอี้โดยใช้กำลังทหารไม่ได้อย่างง่ายๆ แต่หลังจากวันที่ 20 ม.ค. อำนาจสู่มือไบเดน วันดีเดย์ที่ความเด็ดขาดทั้งมวลจะพุ่งมาสู่ทรัมป์และเครือข่าย แล้วคิดว่า ทรัมป์จะยอมให้ถึงวันนั้นหรือ
ทรัมป์จะสร้างแพลตฟอร์มของตัวเอง-จริงไหมต้องถามอีลอน มัสก์
โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์กำลังเรียกร้องให้ อีลอน มัสก์ นักธุรกิจมหาเศรษฐีคนดัง ช่วยสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลให้แก่ทรัมป์ด้วย โดยให้เหตุผลว่า เพื่อรักษาการมีเสรีภาพในการพูดแสดงความคิดเห็นในอเมริกา เรียกว่า นาทีนี้ ทรัมป์ กำลังดิ้นสุดชีวิตเพื่อหาที่หยัดยืนบนโลกออนไลน์ ที่ถือเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการกระจายข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโลกยุคนี้ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบจาก อีลอน มัสก์แต่อย่างใด
