“แรมโบ้-ธนกร” รุมสวนเจ็บ “พิธา” เลิกนั่งเทียนพูด ชุ่ย ๆ ระวังกลายเป็นพรรคก้าวถอยหลังลงคลอง!!

3513

จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล คัดค้านการงดประชุมสภาฯ ช่วงโควิด พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลว่าอยากมีอำนาจแต่ไม่อยากรับผิดชอบ ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน

ล่าสุด วันที่ 5 ม.ค. 64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่นายกฯไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดตัวเอง รัฐบาลต้องการมีอำนาจแต่ไม่ต้องการรับผิดชอบ แก้ปัญหาผิดทิศผิดทาง ผิดซ้ำซาก และค้านปิดสภาฯ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 มาถูกทางแล้ว ไม่เช่นนั้นการระบาดครั้งที่ผ่านมาจะไม่สามารถคลี่คลายลงได้ และการระบาดครั้งนี้นายกฯได้ใช้ประสบการณ์จากครั้งที่แล้วในการออกมาตรการต่างๆ และนายกฯยังเข้าใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดีเพื่อให้ไม่กระทบกับผู้ประกอบการ ด้วยการที่ยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศ

พร้อมยืนยันว่านายกฯและรัฐาลไม่เคยปัดความรับผิดชอบ โดยนายกฯยังได้สั่งตรวจสอบขบวนการลักลอบแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองแล้ว พร้อมให้ดำเนินการปราบปรามบ่อนการพนันอย่างเข้มงวด และให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ นอกจากนี้ยังยืนยันว่านายกฯมีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน และผู้ประกอบการต่างๆ ไม่เคยทอดทิ้ง

และการที่ยังต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนั้น เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ในช่วงที่รอให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ฉบับปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเชื่อว่าประชาชนก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หรือเว้นแต่ผู้ที่อยากจะทำผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อยากให้มีการชุมนุมเท่านั้น ที่อยากให้ยกเลิกในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤตโควิดเช่นนี้

ส่วนที่นายพิธาไม่เห็นด้วยกับการปิดประชุมสภาฯนั้น การปิดสภา ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯสภาก็หารือกันเองมิใช่หรือ นายกฯไม่ได้ไปสั่งการอะไร ตนเองมองว่านายพิธาคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สถานการณ์เช่นนี้ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคให้มากที่สุด อยากให้นายพิธามองเห็นถึงสุขภาพของเพื่อนสมาชิกสภาฯด้วย มากกว่าจะมาคิดเรื่องของการเมือง
” ความเป็นฝ่ายค้าน ต้องค้านอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานตรรกะความเป็นจริง มิใช่นั่งเทียนแล้วพูดเดาอย่างไร้เหตุผล เพียงหวังการตีกินทางการเมืองโดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาหากินทางการเมือง นักการเมืองสไตร์นี้จบเส้นทางการเมืองมาหลายรายแล้ว ตนจึงอยากเห็นนายพิธา จะเป็นตัวอย่างที่ดีในสายตาประชาชน แต่ถ้าเล่นการเมืองแบบเดิม โจมตีกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ในที่สุดความเสื่อมศรัทธาจะตามมา พรรคก้าวไกล จะกลายเป็นพรรคก้าวถอยหลังลงคลองในสายตาประชาชนอย่างแน่นอน” นายสุภรณ์ กล่าว

ทางด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา คัดค้านการงดประชุมสภาฯ ช่วงโควิด พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลว่าอยากมีอำนาจแต่ไม่อยากรับผิดชอบ ว่า ตนผิดหวังกับนายพิธามาก เล่นการเมืองไม่เลิก ขนาดประชาชนเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ยังโจมตีรัฐบาลด้วยข้อมูลเท็จ สร้างความสับสนให้กับประชาชน ทั้งนี้ การงดประชุมสภาฯ ก็เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่เกี่ยวกับว่ารัฐบาลเป็นคนสั่ง หากนายพิธาไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะห่วงเจ้าหน้าที่ ส.ส. ส.ว. หรือประชาชนบ้าง เพราะหากติดโควิดจะทำให้เดือดร้อนวุ่นวายทั้งสภาฯ ควรจะปฏิบัติตามศบค.หรือกทม. เพราะหากเปิดประชุมแล้วเกิดแพร่ระบาดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายพิธาระบุว่า รัฐบาลอยากมีอำนาจแต่ไม่รับผิดชอบนั้น ถามจริงๆ ว่าใครอยากมีอำนาจกันแน่ รัฐบาลนี้รับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติตลอดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เคยทิ้งประชาชน อย่าใช้วาทกรรมชุ่ยๆ ว่ารัฐบาลไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์บริหารจัดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ คำนึงถึงสุขภาพประชาชนเป็นหลัก ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจและสังคม ที่สำคัญ พล.อ.ประยุกธ์ทำสำเร็จมาแล้วในการระบาดครั้งแรก ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาล เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของไทย อย่างไรก็ตาม นายพิธาเป็นคนรุ่นใหม่ ขอให้ปรับกระบวนทัศน์ใหม่ด้วย ควรเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว อย่าเป็นร่างทรงของใครเลย

“สิ่งที่นายพิธาเสนอมานั้นที่ผ่านมารัฐบาลทำไปหมดแล้ว โดยเฉพาะการออกมาตรการทางการเงินการคลังมาช่วยเหลือประชาชน เอสเอ็มอี ภาคเอกชน ฯลฯ รวมถึงการใช้เงินกู้1ล้านล้านบาทแก้โควิด-19 แผนฟื้นฟู4แสนล้านบาทก็เดินหน้ามาตลอด ที่สำคัญรัฐบาลแก้สำเร็จมาแล้ว ขอให้มั่นใจว่าไม่ได้แก้ผิดทิศผิดทาง ส่วนการที่นายพิธาบอกว่าท่านนายกฯ ไม่เข้าใจหัวอก และไม่เคยนั่งอยู่ในหัวใจของคนหาเช้ากินค่ำนั้น อยากบอกนายพิธาว่า ท่านนายกฯ เข้าใจดี และเข้าไปนั่งใน4ห้องหัวใจของประชาชนมานานแล้ว ขอให้เข้าใจด้วย”นายธนกรกล่าว