บิ๊กนปช. แห่รุมขย่ำ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” เหตุวีรกรรมสุดปากดี ขยี้แผลเจ็บ “ยุบนปช.” พร้อม สร้างองค์กรใหม่

3240

วันพังพินาศ ขัดแย้งทุกหย่อมหญ้า!! บิ๊กนปช. แห่รุมขย่ำ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” เหตุวีรกรรมสุดปากดี จี้ยุบ นปช. สร้างองค์กรใหม่ ผลประโยชน์เข้าตน!?

ในวันที่ 11 ม.ค.64 ทางด้านของ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ถึงแนวทางของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่าควรทำการ set zero เปลี่ยนชื่อใหม่ โละทีมบริหารออกยกชุด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้…

“เพจ UDD News ขอความร่วมมือมายังคนเสื้อแดง กรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับการยุบ นปช. ด้วยความหวังดีต่อขบวนการคนเสื้อแดง ผมขอให้ข้อมูลในฐานะนักกิจกรรมที่แสดงความเห็นในเรื่องนี้อย่างเปิดเผย ดังนี้

1. ผมได้ทำแบบสำรวจความคิดเห็นตั้งแต่เดือนที่แล้ว ช่วงที่ จตุพร ออกมาประกาศว่าจะยุบ นปช.ใหม่ๆ และได้นำโพลดังกล่าวไปโพสตามเพจกลุ่มต่างๆ ผลปรากฏว่า 99.8% ไม่ต้องการให้ยุบ นปช.และต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะตำแหน่งประธาน นปช. เกือบทั้งหมดได้ประกาศเจตนารมย์ขับไล่จตุพรออกจากคนเสื้อแดง

2. เมื่อมองไปยังแกนนำ นปช.ทั้งหมดที่มีอยู่ ผมมองไม่เห็นว่าแกนนำ นปช.คนใดจะมียุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์เพียงพอในการนำประชาชนให้เรียกร้องประชาธิปไตยในทศวรรษหน้า

3. สิ่งที่คนเสื้อแดงจะทำ นปช.ไม่มีทางตอบสนองได้ และลำพังการเปลี่ยนประธานไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากผ่าตัดยกเครื่ององค์กร เปลี่ยนชื่อใหม่ โละทีมบริหารออกยกชุด set zero สร้างองค์กรนำของคนเสื้อแดงใหม่”

ซึ่งจากการโพสต์ดังกล่าวของ ฟอร์ด ก็ทำให้เกิดแรงสะเทือน เมื่อมีกลุ่มคนเสื้อแดง ตัวหลักหลายๆสาย เริ่มออกมาเคลื่อนไหวกับความปากพล่อย และค่อนข้างดูถูกกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างรุนแรง โดยเมื่อวันที่ 11 ม.ค.64 ที่ผ่านมาก็ได้มี นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นสายตรงของ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าว ด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยได้เปิดเผยว่า

“ในฐานะคนเสื้อแดงคนหนึ่ง เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเสมอ แต่การที่นายฟอร์ด ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็น ซึ่งมองแบบเหยียดกลุ่มแกนนำมากไปนิด นายฟอร์ดจงอย่าลืมว่า จุดเริ่มต้นขององค์กรเกิดมาอย่างไร หลายคนต้องติดคุก หลายคนต้องหนีออกนอกประเทศ เพราะจุดเริ่มต้นที่โหดร้าย พวกเราก็สู้กันมา มันคงไม่เหมือนพวกโลกสวย นักกิจกรรมสร้างอีเว้นท์ ขายบัตรหาเงิน สร้างโน้นนี่นั่นหารายได้กับพี่น้องเสื้อแเดงไปวันๆ

เชื่อว่า คนเสื้อแเดงจริงมีจิตตวิญญาณ กับการต่อสู้ ไม่มีแกนนำเขาก็สู้ และเชื่อว่าเขาจะเข้าร่วมต่อสู้กับทุกกลุ่ม ที่มีเป้าหมาเดียวกัน หลายคนพยายามสร้างตัวให้เป็นแกนนำแต่ในที่สุดก็ได้แค่ทำกิจกรรมหาเงิน อยากฝากไปถึงนายฟอร์ดว่า คำว่า นปช. หรือคนเสื้อแดง คือสัญญลักษณ์ของกลุ่มคนนักต่อสู้ เขาไม่ได้ยึดติดที่ชื่อ หรือสีเสื้อ

ถ้านายฟอร์ดจะทำองค์กรขึ้นมาใหม่ หรือที่คิดจะตั้งพรรคการเมือง ถือว่าเป็นสิทธิ เพราะเราคือเสรีชน เพียงแต่องค์กร หรือพรรคการเมืองที่คิดจะทำจะมีใครเอาด้วยสักกี่คน นั่นเป็นอีกเรื่อง สุดท้ายนายฟอร์ดเองก็เพียงเคยร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง แล้วแยกไปอยู่ในกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และช่วยถามน้องๆในกลุ่มคนอยากเลือกตั้งดูด้วยนะว่าพวกเขาสบายใจกันดีหรือที่มีคุณอยู่ในกลุ่ม”

ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ ฟอร์ด ก็ได้โดนระเบิดลูกใหญ่ทิ้งใส่ไปแล้ว นั่นคือความบาดหมางอย่างรุนแรงกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ส่งผลให้ในวันที่ 25 ธ.ค.63 ทางด้านของ นายจตุพร ได้ออกมาเฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk จัดการดำเนินคดีกับนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดงหลังปีใหม่ 2564 ตามความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ ขณะนี้ทนายความได้รวบรวมหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว

ทั้งนี้นายจตุพร กล่าวถึงฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่โพสต์กล่าวหา แต่ตนพยายามให้อภัยมาตลอด จนเกินจะอดทน จึงต้องดำเนินคดี 4 โพสต์ล่าสุดหลังโดยจะแจ้งกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เนื่องจากพฤติกรรมดูเหมือนได้ใจ แต่อย่าหยุดโพสต์ ขอให้ทำตามสบายใจ

นอกจากนี้ ได้ชี้แจงโพสต์ของฟอร์ด บางส่วนที่ตั้งคำถามใครเลือกจตุพร เป็นประธาน นปช.ว่า ก่อนตนมาเป็นคนเสื้อแดง ได้เป็นผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ปี 35 นำทัพมาต่อสู้ที่รามคำแหงเป็นที่สุดท้าย จากนั้นไปร่วมขบวนการภาคประชาชนมากมาย แล้วเข้าพรรคไทยรักไทยกระทั่งถูกยุบพรรค

“เมื่อพวกตนออกจากคุก มีการเลือกประธานนปช.คนใหม่ ตนยังขอให้นางธิดา ทำหน้าที่ต่ออย่างเป็นทางการ และถึงการชุมนุมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงส่งไม้ต่อให้ตนนำทัพ นปช.ต่อสู้ในวันที่สู้อะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งเป็นสถานการณ์ยากลำบาก เพราะขบวนการคนเสื้อแดงอ่อนแอและมีนักเลือกตั้งเข้ามาจัดการมวลชนแทน

ส่วนเคยนำต่อสู้ไปสู่ความสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่มุมมองแต่ละคนในการต่อสู้ เนื่องจากระหว่างทางเต็มไปด้วยบาดแผล แล้วแต่จะอธิบายกัน ตนผ่านอะไรมามากมาย แต่สิ่งสำคัญในสมรภูมิต่อสู้ย่อมมีแพ้และชนะหมุนวนเปลี่ยนกันไป เนื่องจากปัจจัยไม่ได้เกิดเฉพาะเราเอง ยังมีปรากฎการณ์ขององคาพยพการต่อสู้ด้วย

กรณีการติดคุกในคดีเดียวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อนั้น เป็นการพยายามอธิบายใส่ร้าย จึงต้องดำเนินคดีนายฟอร์ดที่โพสต์ เพราะเป็นการตั้งคำถามให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อเป็นคนเก่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่การตั้งคำถามลักษณะเสี้ยมๆแบบนี้ เป็นความเท็จและใส่ร้าย จึงต้องดำเนินคดี” ประธานนปช. กล่าว

นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงนายฟอร์ด ที่ถามมีส่วนร่วมหรือเคยรณรงค์ยกเลิก ม.112 หรือไม่ ว่าตนถูกดำเนินคดี 112 แต่สู้คดี แต่ไม่จำเป็นต้องอวดตัวเท่านั้น อีกทั้งการถามไปเยี่ยมนักโทษคนเสื้อแดงติดคุกหรือไม่นั้น ตนอยู่ในคุกกับคนเสื้อแดง จึงไม่จำเป็นต้องโพนทะนาอะไร

“วิธีการตั้งคำถามในลักษณะอย่างนี้ ดูเหมือนใหญ่โต ผมจึงต้องดำเนินคดีอย่างน้อย 4 คดี ถ้าโพสต์ใหม่ก็เอาอีก เพราะวิธีการชั่วร้ายพยายามอธิบายทำลายใส่ความ ใส่ร้าย ผมพยายามอดทน แต่ต้องเอากันสักตั้ง คุณอย่าหยุด โพสต์อีก โพสต์ 10 ครั้งก็แจ้งจับ 10 ครั้ง ตอนนี้ผมถอยไม่ได้ 4 จึงต้องฟ้อง”

อย่างไรก็ตาม นายจตุพร กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า นายฟอร์ดตั้งคำถามอธิบายความอย่างที่โพสต์นั้น เป็นการเห็นแก่ตัวที่สุด เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นเรื่องการใส่ร้ายกัน จึงต้องเจอกัน เพราะวันนี้เราต้องยืนหยัดอย่างเงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน อีกอย่างถ้าคนเสื้อแดงไปเห็นด้วยกับคดีบอสนั้น เป็นพฤติกรรมกระจอกที่สุด ตนรับไม่ได้

สำหรับ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” เป็นแดงอิสระที่เคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มนักศึกษาต้าน คสช.มานาน ซึ่งเจ้าตัวระบุในเฟซบุ๊ก เคยทำงานที่ ธุรกิจส่วนตัว และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชน

และขณะนี้ “ฟอร์ด” ได้ตั้งพรรคการเมืองชื่อ พรรคเส้นทางสีแดง ร่วมกับแนวร่วมเสื้อแดงอีกหลายกลุ่ม โดยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เฟซบุ๊ก “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ระบุว่า” ผมตัดสินใจแน่นอนแล้วจะจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชน

“เรื่องนี้ผมได้พูดหน้าเฟสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมทำกิจกรรมมา 9 ปี ปั่นจักรยานเยี่ยมชาวบ้านมาทั่วประเทศ ปั่นเพื่อประชาธิปไตยถึง 6 ประเทศในเอเซียเกือบสองหมื่น กม. ทำกิจกรรมเยี่ยมคนในเรือนจำมาสองปีกว่า รณรงค์ Vote NO ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ รณรงค์เลือกตั้งหลายสิบครั้ง บริจาคเงินและสิ่งของในกิจกรรมนับล้านบาท ไม่มีกิจกรรมใดที่ไม่สำเร็จ ผมทำกิจกรรมมานานถึง 9 ปี และผมคิดว่าผมอิ่มตัวกับกิจกรรมแล้ว ภารกิจของผมในปีหน้าคือรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญพร้อมไปกับการตั้งพรรคการเมืองเพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า” ฟอร์ด ระบุในเฟซบุ๊ก