จากกรณีนายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ และ นายชีวะภาพ ชีวะธรรมผอ. สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หอบหลักฐานแจ้งความกับตำรวจบก.ปทส. เอาผิดกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ หลังตรวจสอบพบมีการบุกรุกที่ดินใน จ.ราชบุรี ขณะที่ ผบก.ปทส. ยืนยันตำรวจทำงานตรงไปตรงมา ไม่เลือกข้าง
สืบเนื่องจาก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ร้องทุกข์ให้กรมป่าไม้ ดำเนินการตรวจสอบที่ดิน 77 แปลง เนื้อที่รวมทั้งหมดกว่า 3,098 ไร่เศษ ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ
หลังรับเรื่องร้องทุกข์กรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนพบว่าที่ดินที่นางสมพรครอบครองอยู่นั้น เป็นพื้นที่ป่าสงวน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี และซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่มีการประกาศในปี 2554 และไม่มีแผนงานพร้อมงบประมาณที่จะดำเนินการ จึงไม่มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติและแปลงที่ดินทั้งหมดซ้อนทับในเขตป่าไม้ถาวรหมายเลขที่ 8
ทั้งนี้ พบหลักฐานเชื่อได้ว่านางสมพร มีเจตนาครอบครองที่ดิน นส.2 โดยการซื้อเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นแบบผิดกฎหมาย 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ ประกอบกับที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นประเด็นปัญหาซ้อนทับที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมีการร้องเรียนของกลุ่มชาวบ้าน ม.14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่มีแผนงานจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน โดยมีตัวแทนของนางสมพรเข้าร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ก่อนจะแสดงเจตนามอบให้จัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน ถือเป็นการแสดงเจตนาครอบครอง นส.2 แบบผิดกฎหมายของนางสมพร
นอกจากนี้ ได้มีการตรวจสอบพบว่า นางสมพร ครอบครองที่ดินมือเปล่าแบบผิดกฎหมาย ภบท.5 อีก 1 แปลง เนื้อที่ 9 0ไร่ ในท้องที่หมู่ 3 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจสอบพบหลักฐานใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อ นางสมพร จ่ายเงินค่าที่ดินมือเปล่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 90 ไร่ ในช่วงปี 2553-2556
ส่วนเอกสารโฉนดที่ดิน 1 แปลงและ นส.3 อีก 14 ฉบับอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบ ขณะนี้พบความผิดฐานบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 450 ไร่ เป็นที่ดิน ภบท.5 และ นส.2 รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดิน นส.3 ก รวม 55 แปลง
และเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินของนางสมพร ที่เป็นนส.3 ก อีกประมาณ 2,000 ไร่ เบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิดตาม ม.14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.54 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ผู้นำชุมชนหมู่ 14 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ร่วมกันปักป้ายประกาศยึดที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี แปลงที่ 1 จำนวน 350 ไร่
โดยป้ายดังกล่าวระบุว่า พื้นที่ตรวจยึดบริเวณนี้ปรากฏการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 53 ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายบำ เข้ายึดถือและครอบครองป่าผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 “ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนญาต”
ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐาน “เข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ฐาน “กระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ”
สำหรับที่ดิน 350 ไร่ตรวจยึดโดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) , ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์บำ (ศปก.พป.) และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1 (จอมบึง) สังกัดศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กรมป่าไม้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ปิดประกาศ ณ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2564