จากที่เป็นประเด็นให้ถูกพูดถึงอยู่สองวัน ถึงการกระทำที่อุกอาจบุกเผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำคลองเปรม ซึ่งในที่สุดก็มีการออกหมายจับและเจ้าหน้าที่สามารถตามจับกุมคนกระทำผิดได้ แล้วก็พบว่าไม่ได้มีเพียงแค่ข้อหาเดียว หากแต่โดนดำเนินคดีถึง3ข้อหา วันนี้เรามาดูกันว่ามีข้อหาอะไรบ้าง และทำไมถึงเป็นเช่นนั้น!?!
ทั้งนี้เริ่มจากที่ศาลอาญา รัชดา ได้อนุมัติหมายจับนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ พร้อมพวกอีก 2 คน ที่ 429/2564 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังร่วมกันก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดเผยผ่านทวิเตอร์โดยโพสต์ข้อความว่า “ด่วน! 17.04 น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งจากครอบครัวของ “แอมมี่” ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ว่า ตำรวจมาที่บ้านและแสดงหมายค้นออกโดยศาลอาญา มีผู้กำกับ สน.ประชาชื่น เป็นผู้ร้อง และ นายสุวิชา สุขเกษมหทัย ผู้พิพากษา เป็นผู้ลงชื่อ”
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ผ่านช่องทีวี Top News ที่ดำเนินรายการโดยนายกนก รัตน์วงศ์สกุล และนายธีระ ธัญไพบูลย์ โดยระบุตอนหนึ่ง หลังผู้ดำเนินรายการถามถึงกระแสข่าวตำรวจออกหมายจับและได้มีการควบคุมตัวนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ นักร้องที่เคลื่อนไหวกับกลุ่มม็อบสามนิ้ว ว่า ในขณะนี้จับได้แล้วหนึ่งคนที่จับตามการขอหมายจับโดยมีการขอหมายจับสามคน แต่ศาลอนุมัติให้ออกหมายจับแล้วหนึ่งคนคือ นายแอมมี่ โดยจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องสามคน ซึ่งในทางการสอบสวนเกี่ยวข้องพบว่า รถที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุเกี่ยวข้องกับนายแอมมี่ โดยการสอบสวนมีการไล่ไทม์ไลน์ไว้
กระนั้นก็มีกระแสให้ถูกกล่าวถึงอย่างมากไม่ว่ากลุ่มสนับสนุนม็อบและนายแอมมี่ รวมทั้งฝ่ายที่อยากให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับคนกระทำ ว่าทำไมเหตุการณ์นี้ถึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาถึงสามข้อหาด้วยกัน มีเหตุผลและเรื่องราวอย่างไร
ดังนั้นเองที่ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อธิบายถึงข้อกล่าวหาของนายแอมมี่ไว้อย่างชัดเจนว่า
กรณีคนร้ายลอบวางเพลิงเผาทรัพย์หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น ศาลอาญาได้อนุมัติให้ออกหมายจับตามหมายจับที่ 429/2564 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2564ให้จับนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลพันธุ์ กับพวกอีก 2 คน ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มีข่าวว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมตัวนายไชยอมรหรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ได้แล้ว ขณะกำลังจะหลบหนีออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 มีอัตราโทษจำคุก 3 ปี ถึง 15 ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ตามมาตรา 217 มีอัตราโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ตามมาตรา 218 มีอัตราโทษประหารชีวิต จําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุก 15 ปี ถึง 20 ปี
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีความของนายแอมมี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำไมต้องโดนข้อหาพรบ.คอมพิวเตอร์ด้วยนั้นก็พบว่าเฟซบุ๊ก ห่วยตูน ได้โพสต์ภาพข่าวพร้อมข้อความถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
มิตรสหายท่านหนึ่งแจ้งมาว่า ใช้รถแม่ ขับไปเผา
เผาเสร็จถ่ายรูป แล้วเผ่นกลับมาที่ รพ. แล้วโพสต์ลง IG
แต่ มิตรสหายท่านหนึ่งลืมแจ้งมาว่า มีกล้องวงจรปิด
อย่างไรก็ตามล่าสุดวันนี้ 3 มีนาคม 2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์อีกครั้งถึงกรณี แอมมี่ว่า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 มีนาคม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า แอมมี่ the bottom blues หรือนายไชยอมร ถูกจับกุมที่ โรงพยาบาลราชธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคืนนี้จะยังรักษาตัวเบื้องต้นก่อนจะมีการทำเรื่องส่งตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ในเวลาต่อไป