อัษฎางค์ ชำแหละปูมหลัง “ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ” ธนาธร ขัดคำสั่งเสียของพ่อ ต่อต้านสถาบันฯ!!

4762

อัษฎางค์ เปิดปูมหลัง ปณิธานของ “เจ้สมพร” สวนทางกับคำสั่งเสียของพ่อธนาธร จนทำให้เกิดปรากฎการณ์ “พ่อรักลูกล้ม”

จากกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันมาโดยตลอด และมีการพูดโจมตีสถาบันหลายครั้ง สร้างวาทกรรมเพื่อปลุกระดมให้เยาวชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยล่าสุดมีการไลฟ์สดในเรื่องของวัคซีนพระราชทาน มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญว่าด้วยการจัดหาและผลิตวัคซีนโควิดในประเทศไทย ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง, ทำไมประเทศไทยได้วัคซีนช้า, และทำไมรัฐบาลถึงจัดหาวัคซีนได้ไม่ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาทางด้านของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนายธนาธร ออกมาไลฟ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ทั้งนำไปโยงกับการเมืองและใช้คำว่า วัคซีนพระราชทาน ว่า ตนถือว่าเป็นการบิดเบือน ทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จ

ล่าสุดทางด้าน นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีปณิธานของเจ้สมพร กับปรากฏการณ์ของอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคปัจจุบันที่เรียกว่า “พ่อรักลูกล้ม” โดยระบุข้อความว่า

“ปณิธานของเจ้สมพร” กับ ปรากฏการณ์ของอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคปัจจุบันที่เรียกว่า “พ่อรักลูกล้ม”
พ่อของเจ้สมพรขายกระเพาะปลาอยู่ใกล้ๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อของพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ ในเขตบางรัก โดย ดช.พัฒนา ต้องช่วยพ่อแม่ขายก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ
ต่อมาคุณพัฒนาและเจ้สมพร ก็พบรักกันตอนเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพพิทยา
“เราคบกันเป็นแฟนตั้งแต่อายุ 10 กว่าปี กว่าจะแต่งงานกันนานหลายปีทีเดียว” เจ้สมพร เล่าเรื่องอดีตรักวัยเรียน
ต่อมาฮั่นตง แซ่จึง หรือนายสรรเสริญ จุฬางกูร พี่ชายแท้ๆ ของฮั้งฮ้อ แซ่จึง หรือนายพัฒนา ก็เปิดร้านซ่อมเบาะรถร่วมกับเพื่อนชื่อว่า สามอิ้ว แปลว่า สามมิตร
และได้ชวนน้องชายมาช่วยงานที่ร้านซ่อมเบาะซึ่งในช่วงแรกกิจการไม่ค่อยดี เพื่อนๆ จึงถอนตัวไปหมด ในที่สุดก็เหลือแค่พี่น้องสรรเสริญและพัฒนาทำร้านต่อไป โดยคุณสรรเสริญ ได้เป็นเถ้าแก่ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 26 ปี กับชื่อ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามมิตรชัยกิจ” บนถนนทรัพย์ กับลูกน้องเริ่มต้น 6 คน และแล้ววันหนึ่งโอกาสมาถึง เมื่อได้งานจากยามาฮ่าตามมาด้วยฮอนด้า, ซูซูกิ และคาวาซากิ พองานเข้าเยอะขึ้น จึงขยายร้านไปแถวสาธุประดิษฐ์ โดยเริ่มสร้างโรงงานและเปลี่ยนชื่อเป็น ซัมมิท โอโตซีท อินดัสตรี จำกัด”
ซัมมิท หรือ summit หมายถึง จุดสูงสุด
ในระหว่างที่คุณพัฒนาเปิดโรงงานสาธุประดิษฐ์นี้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เจ้สมพรเดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกา 3 ปี ก่อนจะหมั้นหมายและแต่งงานกัน
“คุณพัฒนาคิดไกลว่า ถ้าเราทำแต่เบาะ เกิดไม่มีงานหรือมีคู่แข่งคงแย่ เขาเลยของานทำชิ้นส่วนรถจากญี่ปุ่นด้วย ทำไปทำมา งานผลิตชิ้นส่วนรถโตเร็วมาก”
ปี 2520 พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ จึงแยกตัวออกจากร้านซ่อมเบาะแถวสาธุประดิษฐ์ มาซื้อที่ดินบนถนนบางนาตราด กม.16 และเปิดบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด รับผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์
พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ เสียชีวิตเมื่อปี 2545 ด้วยโรคมะเร็ง
“ถ้าไม่มีคุณพัฒนา ก็คงไม่มีไทยซัมมิทกรุ๊ปเช่นทุกวันนี้” สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ พูดกับสื่อไว้หลายปีแล้ว
เจ้สมพร ได้ให้พันธสัญญาไว้กับคุณพัฒนาสามีของเธอ ซึ่วถูกบันทึกไว้ในหนังสือที่ระลึกในพิธีพระราชทานดินบรรจุศพ พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ ใจว่า
“จิตใจอันแน่วแน่ของฉันได้พูดกับเขาว่า ป่าป๊าไม่ต้องห่วงอะไร สิ่งต่างๆ ป่าป๊าสร้างไว้และอุดมการณ์ของพ่อ ม้าจะสานต่อและรักษาไว้ให้ได้”
นอกจากนัยยะในการสานต่อทางธุรกิจแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่เจ้สมพรอาจลือไปแล้ว ว่าอาป๊าพัฒนา มีความจงรักภักดีต่อชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่อาตี๋เอกต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นปณิธานที่อาม่าสมพรตั้งใจ ไม่สามารถรักษาไว้ได้และไม่เคยเป็นจริง
“พ่อรักลูกล้ม” คือปรากฏการณ์ของอุดมการณ์ทางการเมืองในยุคปัจจุบัน ที่น่าเป็นห่วงกังวล

ต่่อมาทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas สหรัฐอเมริกา ยังได้โพสต์ข้อความล่าสุดที่เรียกได้ว่าเจ็บปวด โดยการถามหาผู้ที่มีชื่อว่า “นายพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ไม่มีปรากฎอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทไทยซัมมิท ซึ่งผิดวิสัยอย่างมากสำหรับการสำนึกในบุญคุณผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ ที่ควรมีชื่อให้รุ่นต่อรุ่นได้ทราบ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

“มีใครพบเห็นชื่อ “พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ” ในเว็บไซต์ของบริษัทไทยซัมมิทบ้างครับ?
สงสัยจังมีใครบางคนอยากลืมพ่อตัวเองจริงหรือเปล่า?”