จากกรณีวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร โพสต์ข้อความเชิญชวนนัดแต่งกายด้วยเสื้อครึ่งตัวไปเดินห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
ระบุว่า “เนื่องจากน้องสายน้ำ นภสินธุ์ เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกยัดคดี 112 เพียงเพราะใส่ชุดครอปท็อปและเขียนตัวว่า “พ่อกูชื่อมานะ” ซึ่งการยัดคดีดังกล่าวถือเป็นการใช้กฎหมายปิดปากประชาชนที่ทุเรศที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น
จึงขอเชิญชวนทุกท่านสวมชุดครอปท็อปเดินพารากอนในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) เพื่อยืนยันว่าสวมชุดครอปท็อปไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ส่วนท่านใดกลับบ้านไปเลือกตั้งท้องถิ่นก็ขอเชิญชวนให้ใส่ชุดคร็อปท็อปไปเลือกตั้งเช่นกัน แล้วพบกัน วันพรุ่งนี้ #ยกเลิก112 #ใครๆก็ใส่คร็อปท็อป #20ธันวาไปเลือกตั้ง”
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนเท่าใดนัก เหล่าแกนนำที่นัดแนะกันจึงทำได้เพียงเดินไป-มาในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โดยทางแกนนำดังกล่าว มี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และเพื่อนอีก 2-3 คน ได้ไปที่หน้าร้าน SIRIVANNAVARI แฟล็กชิพสโตร์ ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งเมื่อไปถึงได้ยืนหน้าร้านพร้อมกับชูสามนิ้วถ่ายรูป
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวของเหล่าแกนนำนั้น ถูกวิจารณ์จากคนในสังคม และคนในโลกโซเชียลฯ อย่างมาก โดยบางคนระบุว่า เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงรักและเปิดร้านดังกล่าว แต่ทางเหล่าแกนนำกลับไปปั่นป่วนที่หน้าร้าน ไม่เกิดความละอายบ้างหรืออย่างไร เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น ในโลกโซเชียลฯ ยังได้มีการคอมเมนต์ถึงพฤติกรรมของกลุ่มแกนนำเหล่านี้ด้วย เช่น การอยากสร้างจุดสนใจให้คนมอง บางครั้งไม่จำเป็นต้องทำร้ายและดูถูกตัวเองขนาดนี้, นี่คือโฉมหน้าพร้อมสติปัญญาที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศให้เจริญเหรอ, นอกจากความทุเรศของสภาพแล้ว ไม่ทราบว่ามีเป้าหมายอะไร เป็นต้น
ขณะที่ ล่าสุด มีรายงานด้วยว่า ที่ สน.ปทุมวัน ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันปกป้องสถาบัน ศปปส., ทีมกฎหมายกลุ่มไทยภักดี ร่วมกันกล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับแกนนำม็อบเรี่ยราด ที่กระทำความผิด ม.112 อีกหนึ่งคดี เหตุเกิดที่ห้างสยามพารากอนเมื่อวาน (20 ธันวาคม) เวลา 15.30-16.30 น
