จากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ผู้สมัครนายก อบจ. 76 จังหวัด -ชิงชัยเพื่อรักษาพื้นที่ ทั้งป้องกันแชมป์จากผู้ท้าชิง โดยมีพรรคการเมืองใหญ่ กลุ่มการเมืองส่งผู้สมัครแข่งกันอย่างดุเดือดนั้น!!!
ทั้งนี้มีความน่าสนใจกับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ที่มีผู้สมัครจำนวน 3 คน คือ หมายเลข 1 นายมงคลชัย ดวงแสงทอง ลงสมัครใน นามพรรคอิสระ หมายเลข 2 น.ส.อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือ สจ.นก อดีต ส.อบจ.เชียงรายหลายสมัย และลูกสาวของนายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงราย และหมายเลข 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลูกสาว นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และสะใภ้ของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ลงสมัครในเพื่อไทย
สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่า การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการสรุปเมื่อเวลา 23.59 น.วันที่ 20 ธ.ค.63 ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอย่างไม่เป็นทางการคือ หมายเลข 2 อาทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้คะแนน 238,631 คะแนน ตามด้วยหมายเลข 3 วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ 211,205 คะแนน ซึ่งทิ้งห่างกัน 27,426 คะแนน และหมายเลข 1 มงคลชัย ดวงแสงทองได้คะแนน 80,959 คะแนน
โดยหลังจากที่ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการครอบครัวของ สจ.นก อทิตาธร ได้แสดงความดีใจสวมกอดกันอย่างมีความสุขและสัญญาจะนำสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชนมาทำให้สำเร็จ โดยได้ก้มกราบ นายสมบูรณ์ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งคะแนนอย่างเป็นทางการจะต้องรอให้ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงรายเป็นผู้ประกาศอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อปรากฏผลเลือกตั้งออกมา นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็โพสต์ข้อความพร้อมโชว์หมายศาลลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Samart Kaewmechai โดยข้อความระบุว่า
“หมายแรกในชีวิต หลังการเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงราย ได้รับหมายเรียก ถูกกล่าวหาว่า หมิ่นประมาท
จะไปรับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความจริง
หมิ่นประมาทเรื่องอะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงจะได้ใช้โอกาสแถลงข้อเท็จจริงต่อศาล
ระบบยุติธรรมไทย เป็นระบบกล่าวหา เมื่อถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ย่อมเป็นภาระของผู้ถูกกล่าวหา ต้องไปตามหมายเรียกของพนักงานเจ้าหน้าที่
จากตำรวจ ไปอัยการ ไปศาล ตามกระบวนการครับ”
ซึ่งเมื่อตรวจสอบดูหมายศาลก็ปรากฏชื่อของผู้กล่าวหาคือ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพ่อของวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครหมายเลย3 นั่นเอง
สำหรับนายวิสาร ก่อนหน้านี้ได้สร้างเรื่องฮือฮากลางสภาผู้แทนราษฏร์ เมื่อได้แอบพกมีเข้าไปในห้องประชุม แล้วใช้มีดซึ่งเป็นมีดปอกผลไม้ กรีดไปแขนของตัวเอง 3 ครั้ง ท่ามกลางความตกใจของคนในห้องประชุม และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั่วประเทศว่ามีความผิดหรือไม่กับการพกมีดเข้าไปในห้องประชุมสภาฯ
อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่น่าสนใจ ที่ควรติดตามอย่างยิ่งว่า เหตุใดพ่อของ วิสาระดี ถึงได้ฟ้องร้องต่อนายสามารถ เพราะต้องถือว่าอย่างน้อยก็เป็นของพรรคเพื่อไทยกันเอง แม้นายสามารถจะลาออกมาแล้ว แต่ก็เป็นที่รับทราบกันดีว่า อยู่กับพรรคนี้มายาวนานพอสมควร ดังนั้นจึงได้ไปตรวจสอบถึงที่มาถึงเรื่องราวอันร้อนฉ่านี้
ย้อนไปเมื่อปี 2562 สจ.นก และวิสาระดี อันเป็นลูกสะใภ้ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ต่อสู้กันเพื่อชิงการเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ลงสนามนายก อบจ.เชียงราย โดยยิ้ม สาระดี ชนะ เมื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แถลงเปิดตัววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลงสมัครนายก อบจ.เชียงราย เพียงคนเดียว โดยมีรายงานว่าฝ่าย “สจ.นก” จะอ้างว่า เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และขอใช้โลโก้พรรคแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีดังกล่าวนั่งเองที่ทำให้ นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะไม่พอใจเรื่องการส่งผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย และนับจากนั้นมา นายสามารถ ก็ได้เคลื่อนไหวหนุน “สจ.นก” พร้อมกับเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในเขต อำเภอเมืองเชียงราย
นั่นหรือไม่ที่เป็นเหตุให้พ่อของยิ้ม วิสาระดี ต้องออกมาฟ้องสามารถ ส่วนจะเป็นเรื่องใดเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนายกอบจ.หรือไม่ จึงต้องจับตากันต่อไป แต่ที่แน่ๆนี่คือ สงครามการเมืองของตระกูลใหญ่ในเชียงราย ระหว่าง วันไชยธนวงศ์ กับ เตชะธีราวัฒน์ โดยยกนี้ฝ่าย วันไชยธนวงศ์คว้าชัยไปได้ พร้อมคดีความของผู้สนับสนุนอย่าง สามารถ แก้วมีชัย!!!
