“จตุพร” ยิ้มกริ่ม “เด็กทักษิณ” ไม่ชนะขาดลอย แม้ได้นั่ง อบจ.เชียงใหม่

6608

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ในบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นไปอย่างดุเดือด จากสองผู้สมัครตัวเต็ง โดยระหว่าง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ และ ส.ว.ก๊อง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เบอร์ 2 ผู้นำกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ที่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต มีดีกรี นายก อบจ. แชมป์ 2 สมัย และ ส.ว.ก๊อง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครเบอร์ 1 ที่มี ส.ส.เชียงใหม่เพื่อไทยถึง 8 เขต สนับสนุน

บุญเลิศ” แชมป์เก่า-“ส.ว.ก้อง” ยื่นสมัครวันแรกชิงนายก อบจ.เชียงใหม่

ซึ่งศึกครั้งนี้ไม่ใช่แค่ศึกระหว่างสองผู้สมัคร แต่ยังเป็นศึกวัดใจคนเชียงใหม่ วัดบารมีบุญเก่าอดีตนายกฯ เพราะ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครเบอร์ 1 นั้น อดีตนายกฯคนเมืองเชียงใหม่อย่างนายทักษิณ ชินวัตรนั้นเชียร์จนออกนอกหน้า ในขณะที่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เบอร์ 2 ก็มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หนุนหลังอยู่

ความเดือดมันอยู่ตรงที่นายทักษิณได้เขียนจดหมายน้อยอ้อนวอนคนเชียงใหม่ให้เลือกนายพิชัย แต่เหมือนจะยังเป็นกังวลกลัวไม่ได้ เลยยอมลงทุนถึงขั้นเปิดหน้าถ่ายคลิปอู้คำเมืองเว้าวอนอีกครั้ง โดยเนื้อหาใจความบางตอนว่า ตนมั่นใจว่าคนเชียงใหม่ยังรักตน จึงอยากฝากให้เลือกนายพิชัย เเพราะนายพิชัยนั้นเป็นคนที่ฟังความคิดเห็นของตน ในขณะเดียวกัน

นายจตุพร ก็ไม่น้อยหน้า เดินหน้าหาเสียงให้นายบุญเลิศหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดนั้น ได้มีการกล่าวพาดพิงเป็นปริศนา ถึงผู้ลงสมัครคนหนึ่งที่ไม่เอ่ยชื่อ ว่ามีเอี่ยวกับความคลุมเครือของคดีบอส กระทิงแดง โดยมีใจความว่า
” ตนถือว่าได้มากระทำในสิ่งที่ดีงาม ได้มาร่วมขจัดความชั่วร้ายของบ้านเมืองซึ่งเป็นภารกิจต้องกระทำ
ส่วนพรรคการเมืองกล่าวหาว่าเนรคุณนั้น ตนคงได้พูดถึงอีกครั้งในวันข้างหน้า หลังการเลือกตั้งนายก อบจ.เสร็จสิ้นแล้ว แต่โดยทั่วไปแล้ว ตนเชื่อว่า การเนรคุณที่ใหญ่ที่สุดคือการเนรคุณแผ่นดิน ต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและไม่ปฏิบัติตามจิตอธิฐานที่ประกาศไว้กับประชาชน นั่นเป็นการทรยศการเนรคุณที่ใหญ่ที่สุด

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวเป็นการเฉพาะกับใคร และหวังว่าทุกเรื่องราวที่กล่าวถึงระหว่างการทำหน้าที่ช่วยนายบุญเลิศ จะมีเหตุผลในวันข้างหน้า เพราะเรื่องราวสำคัญนั้น ตนยกการทำลายกระบวนการยุติธรรมในคดีบอสกระทิงแดง มาอธิบายโยงใยกับการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ ซึ่งมีผู้สมัครบางคนไปเกี่ยวข้องกับความพยายามล้มคดี และมีส่วนรู้เห็นในการปั้นนายจารุชาติ มาดทอง เป็นพยานเท็จไปให้ปากคำกับตำรวจ

อีกอย่าง นายจารุชาติ เป็นคนใกล้ชิดกับ ส.ว.ชื่อย่อ ช. ให้การว่า อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เห็นรถลูกเศรษฐีขับด้วยความเร็ว 50-60 กม.ต่อชั่วโมง แต่ดาบตำรวจจราจรผู้เสียชีวิตขับรถประมาทปาดหน้า จึงเกิดเหตุถูกชน นั่นจึงเท่ากับการให้ปากคำของพยานเท็จรายนี้เป็นการโกงความตาย

นอกจากนี้ การให้ปากคำของนายจารุชาติ เป็นสาระสำคัญให้กระบวนการยุติธรรมชั้นต้นนำไปเปลี่ยนแปลงความเร็ว 177 กม.ต่อชั่วโมงของเจ้าพนักงานผู้มีความชำนาญลงไปตรวจสอบในพื้นที่เกิดมาเหลือแค่ 80 กม.ต่อชั่วโมง โดยยึดคำให้การของพยานเท็จรายนี้เป็นข้ออ้าง แต่ภายหลังนายจารุชาติ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ที่เชียงใหม่ โดยกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ สงสัยว่า เป็นการฆ่าตัดตอน และน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสถูกสอบเพื่อเค้นเอาความจริงถึงผู้อยู่เบื้องหลังในการปั้นพยานเท็จครั้งนี้

“จตุพร” แฉ เลือกนายก อบจ. ผู้สมัครบางคน เอี่ยวล้มคดีบอส กระทิงแดง?

ส่วนการปลุกกระแสเชียงใหม่นิยมในการเลือกตั้งนายก อบจ.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) มีการยอมรับแล้วว่า เป็นคนเชียงรายมาลงสมัครที่เชียงใหม่จริง จึงเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยในการโกงความตายและโกงความยุติธรรมของดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริญ แล้วยังทำลายกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น ตนจึงไม่อาจไว้วางใจกับงบประมาณของ อบจ.เชียงใหม่ในอนาคตได้

“ผมเชื่อว่า คนรักความยุติธรรมในประเทศนี้มีมากกว่าคนที่โกงความยุติธรรม ผมเชื่อว่าผลแพ้หรือชนะเป็นเรื่องเล็ก แต่การรักษาธรรมไว้เป็นเรื่องใหญ่ และการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของใคร แต่เป็นการรักษาความถูกต้องดีงามไว้ ”

ล่าสุด วันนี้ ผลคะแนนการเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ได้ออกมาเรียบร้อย ปรากฎว่า นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง อดีต ส.ว.เชียงใหม่ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ หมายเลข 1 กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ พร้อมนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ แกนนำเสื้อแดง ได้แถลงข่าวประกาศชัยชนะเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ อย่างไม่เป็นทางการ หลังการนับคะแนนนายก อบจ.ผ่านไปกว่า 90%

ปรากฎว่า นายพิชัย ได้รับเสียงสนับสนุนกว่า 421,574 คะแนน มาเป็นอันดับ 1 ส่วนนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ. 2 สมัย ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 2 กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ได้รับเสียงสนับสนุนกว่า 353,130 คะแนน เป็นอันดับ 2 ทำให้นายพิชัย มีคะแนนทิ้งห่างนายบุญเลิศ กว่า 68,444 คะแนน หลังนายบุญเลิศ ไล่ตามคะแนนนายพิชัย ไม่ทันแล้ว แม้เหลือการนับคะแนนอีก 10 % ก็ตาม

ซึ่งนายบุญเลิศ ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2555ด้วยคะแนน 402,484 คะแนน

การที่นายพิชัยที่ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนสูงเช่นนี้ทั้งที่มีข้อกังขาว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีโกงความตายของบอสกระทิงแดง อาจพูดได้ว่าบารมีทักษิณเจ้าถิ่นเมืองเชียงใหม่ยังคงความขลังอยู่ และคนเชียงใหม่เองยังคงฝักใฝ่ในตัวทักษิณมากกว่าจะสนใจว่าใครจะเป็นผู้ลงสมัคร
แต่อย่างไรก็ตามนายจตุพรเองก็ทำให้นายทักษิณหวั่นใจอยู่ไม่น้อย จึงต้องยอมลงแรงเขียนจดหมาย เปิดหน้าถ่ายคลิปอ้อนวอนกันเลยทีเดียว