หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ใช้อำนาจพรก.ฉุกเฉิน สั่งปิดงานคอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น เขาใหญ่นั้น โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เล็งเห็นว่า การจัดงานสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีมาตรการป้องกันไม่เคร่งครัดพอ
ต่อมาทางด้านนายยุทธนา บุญอ้อม หรือ ป๋าเต็ด ผู้จัดบิ๊กเมาน์เท่นได้ขออุทธรณ์จัดงานต่อในคืนนี้ ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย อย่างไรก็ตามผู้ว่าฯโคราช ได้ชี้แจงผ่านจดหมายคำสั่ง ที่ได้ใช้พรก.ฉุกเฉิน-กม.โรคติดต่อ สั่งปิดบิ๊กเมาท์เท่นตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค.) พร้อมลงท้ายว่าหากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุก-ปรับ
ทั้งนี้ไทม์ไลน์ของงานคอนเสิร์ต มีดังนี้
ยกคำร้องอุทธรณ์ บิ๊กเมาเท่น
ยอมประกาศยุติงาน 22.00 น.
โดยทางเพจ Big Mountain ประกาศว่า ..
งานปีนี้จะยุติทุกอย่างในเวลา 22.00 น.
สำหรับเพื่อนโคที่พักเต็นท์และต้องเดินทางกลับ ดูรายละเอียดข้างล่างนี้เลยมอออ
– สำหรับคนที่พักเต็นท์และรถบ้านยังพักอยู่ได้และเช็คเอ้าท์ในเวลาเดิมคือ 9.00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคมนี้
– สำหรับโปรโคราช สามารถกลับรถตู้ที่จองไว้ได้ตั้งแต่เวลา 22.00 วันนี้ ถึง 12.00 น. วันที่ 14 ธันวาคมนี้
– วินเทวาดาสามารถกลับได้เลยตั้งแต่เวลา 22.00 วันนี้ ถึง 12.00 น. วันที่ 14 ธันวาคมนี้
ขณะที่ทางด้าน ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ได้ออกมาขอโทษผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุขอความสั้น ๆ ว่า ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ครับ พร้อมทั้งได้แชร์ลิงค์ของเพจ บิ๊ก เมาท์เท่น รายละเอียดของการขอคืนตั๋ว
อย่างไรก็ตามได้มีการแชร์ข้อความต่อกันในโลกออนไลน์ ระบุว่า สิ่งที่ ‘ป๋าเต็ด’ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม
1. จัดการ #โควิด19 ที่ไร้ประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้มีกรณี ‘สิงค์ ปาร์ค’ คุณมีเวลาเตรียมตัวเป็นเดือน
2. คุณมีสิทธิ์แจ้งระเบียบข้อบังคับต่างๆต่อ “ศิลปินนักร้อง” โดยเลี่ยงการแสดงออกทางการเมือง เพื่อลดความขัดแย้ง แต่คุณไม่ทำ!
ล่าสุดทางด้านพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับผู้จัดงานคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาท์เท่น 2020” Big Mountain Music Festival 2020 ว่า กรณีของการจัดคอนเสิร์ตและและควบคุมโรค เป็นอำนาจพิจารณาและการกำกับดูแลของ 2 หน่วย คือ ฝ่ายปกครองในฐานะผู้อนุญาต และสาธารณสุขในฐานหน่วยงานด้านการควบคุมโรค ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมาย เหตุที่ผู้มีอำนาจสั่งปิดด้วยจำนวนคนเยอะ การคุมพื้นที่ด้านการควบคุมโรคไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีผู้ต้องสงสัยติดโควิด-19 เข้าบริเวณงาน แต่ต่อมาไม่พบว่ามีเชื้อโควิด-19
กรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีคำสั่งปิดพื้นที่จัดคอนเสิร์ต นั้น กรณีนี้ต้องเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายเจ้าหน้าที่และผู้จัด งานนี้มีการเตรียมการมานาน การสั่งเลิกจัดให้ยุติกระทันหันก็ต้องเข้าใจผู้จัดด้วย โดยคำสั่งปิดสนามกอล์ฟที่จัดงานกำหนดปิดตั้งแต่ 14.00น. ของวันที่ 13 ธันวาคม แต่คำสั่งฉบับจริงถึงมือผู้จัดงาน ประมาณ 16.00 น. ก่อนหน้านั้นก็มีการให้คนเข้าพื้นที่ไปแล้วประมาณ 4-5 พันคน หลังจากนั้นก็มีกระบวนการอุทธรณ์คำสั่ง ซึ่งได้ข้อยุติในเวลาประมาณ 18.30 ระหว่างนั้นเวทีการแสดง หลายเวทีก็เริ่มทำการแสดง มีคนเข้าพื้นที่ประมาณ 20,000 คน ทางผู้จัดก็ต่อรองขอยุติตอน 22.00น. ทั้งที่ความจริงต้องยุติตั้งแต่ 19.00 น.โดยประมาณ
ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมาย การจะนำกำลังไปห้ามหรือไม่ยุติคอนเสิร์ตแบบสั่งเลิกทันที ในกรณีคนจำนวนมากเช่นนี้เราประเมินว่าเกิดความวุ่นวาย โกลาหล แน่ ๆ เราจึงต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ดูแลสถานการณ์ แต่พอทางผู้จัดประกาศเลิก ก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีเหตุวุ่นวาย
นอกจากนี้พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า อย่างไรก็ตามการละเมิดคำสั่ง จัดคอนเสิร์ตต่อ ยังใช้พื้นที่ หลังเวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งผลอุทธรณ์ยุติแล้วถือว่าผิดกฎหมาย ขัดต่อคำสั่งเจ้าพนักงาน ผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ และขัดต่อข้อกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการตรวจสอบหลักฐานการขออนุญาตและการอุทธรณ์คำสั่งเจ้าพนักงาน ทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัด คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้มีอำนาจ คือ นายภาวิตร จิตรกร และ นางสาวบุษบา ดาวเรือง ที่สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใน 2 ข้อหาคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯและขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อถามถึงการแสดงออกทางการเมืองบนเวที รวมถึงการชู 3 นิ้ว ผบช.ภ.3 กล่าวว่า มีการแสดงออกบ้าง ทั้งศิลปินที่พูดถึง แสดงความเห็น แต่ยังไม่มีการกระทำใดที่เข้าองค์ประกอบที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ลักษณะที่พบคือล้อเลียนการเมือง การแสดงออกของเยาวชนเท่านั้น