โหรฟองสนาน เผยเกณฑ์สำคัญชะตาเมืองปี 64 จะเกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมต่อสู้ปกป้องอุดมการณ์สถาบันหลักของชาติ

3410

โหรฟองสนาน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ระบุเกณฑ์คำทำนายภาพรวมดวงเมือง ปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง ระบุว่า ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ ดาวจร และทักษาจร

พระมฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)

พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีพฤษภ ตลอดปี 2564

พระพฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีมังกรต้นปี-9 พฤศจิกายน 2564 (มีเดินผิดปกติข้าราศีระหว่างมังกร-กุมภ์-มังกร)

ย้ายเข้าไปเดินในราศีกุมภ์ระหว่าง 9 พฤศจิกายน 2564-สิ้นปี 2564

พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีมังกรตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)

ทักษาเดิมเมืองตกภูมิอาทิตย์ ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์ ระหว่าง 21 เมษายน 2564-21 เมษายน 2565

ใกล้จะส่งท้ายปีเก่า 2563 เข้าสู่ปีใหม่ 2564 แล้วต่อไปนี้ผู้เขียนจะได้คาดหมายปรากฏการณ์สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ตลอดปี 2564 ทั้งร้าย-ดี ดังนี้

พื้นฐานดวงชะตาเดิมเมืองรัตนสินทร์ กำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 ลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ เมืองเกิดท่ามกลางภัยสงครามและความแตกแยกภายในคณะผู้หาฤกษ์กำเนิดเมืองจึงออกแบบให้รอดจากภัยขนาดใหญ่ทุกสถานการณ์ แต่สิ่งที่แถมมาเป็นวาสนาของเมืองคือคนชอบทะเลาะกัน และหากมีวิกฤติหรือความยุ่งยากคราวใดจะมีโอกาสดีๆ ตามมา ในทางตรงกันข้ามหากเมืองนิ่งๆ ต้องระวังเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น สยามรอดจากสงครามเก้าทัพชนิดที่ขณะทำศึกอยู่แทบไม่เห็นทางชนะ เมื่ออริราชศัตรูยกทัพกลับไปแล้วราชอาณาจักรสยามแผ่นกว้างไกลมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันมากมาย เป็นต้น

เหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดในเมืองปี 2564

1.ในเมืองยังมีการปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไปแต่ไม่ใช่หรือใกล้เคียงการปฏิวัติสยาม 2475 – เพราะเมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่-โรคระบาดขนาดใหญ่-การทำหรือเนรมิตสิ่งที่ทันสมัยล้ำเลิศ หากมากเกินไปคือวิตถาร ทับลัคนาเมืองต่อไปตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ) โดยอาการนี้เป็นมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 แล้ว

ผลของมฤตยูจรทับลัคนาดวงเมือง รวมทั้งอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง (๑) ซึ่งเป็นตัวแทนการเมือง-ผู้มียศศักดิ์-ตำแหน่ง-ผู้ทำ และตัวแทนจิตใจคนไทยนี้ ผู้เขียนยังยืนยันเหมืองเดิมว่า ครั้นกรกฎาคม 2565 เมื่อมฤตยูจรย้ายออกไปจากราศีเมษแล้ว เรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ขณะนี้ที่ยังไม่ถึงกรกฎาคม 2565 เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในเมืองแล้ว ทั้งการเปลี่ยนรัชกาล-สมาชิกราชวงศ์ปรับเปลี่ยนสู่ยุค 4.0-5.0-รถไฟฟ้า-รถไฟความเร็วสูง-รถไฟรางคู่-อีอีซี-ซื้อขายของออนไลน์-และสำคัญคือ ไทยกำลังจะพัฒนาเป็นฮับด้านสุขภาพจากสถานการณ์โควิด-19 ฯลฯ

และย้ำเหมือนเดิม การมาทับลัคนาเมืองของมฤตยูจรรอบนี้ถึงจะมีความพยายามย้อนยุค-ย้อนเหตุการณ์ขนาดไหน สถานการณ์ก็ไม่ใกล้เคียงกับคราวปฏิวัติ 2475 (จะมีเกณฑ์อธิบายทางโหรยืนยันต่อไป)

2.เตรียมลับดาบไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 เพื่อต่อสู้ระยะยาวทางอุดมการณ์-สถาบันสำคัญของชาติไปอีกเกือบยี่สิบปี เหตุด้วยอย่างที่เคยบอกมาแล้ว คือ การเกิดขึ้นของยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มมาตั้งแต่ 2 มีนาคม 2562 ที่ผู้เขียนเรียกว่ายุค 4.0 ขึ้นไป แล้วจะกินเวลาประมาณยี่สิบปีนั้น จะมีการต่อสู้ทางอุดมการณ์-อุดมคติสำคัญในเมืองเหมือนในอดีต คือ การเกิดการของขบวนการแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และลัทธิคอมมิวนิสต์

บัดนี้-ยุคนี้เริ่มการต่อสู้แล้วคืออุดมการณ์ประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คาดว่าจะต้องสู้-ปรับตัวกันไปอีกยาว

3.ตีฝ่าด่านความวุ่นวายท้าทายในเมืองอีกรอบประมาณต้นปี-อย่างต่ำ 24 กุมภาพันธ์ 2564

เกณฑ์นี้ผู้เขียนเคยเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันพาเมืองตีฝ่าช่วงสำคัญ คล้ายๆ เมืองเข้าที่คับขันระหว่าง 10 กันยายน 2563 ให้ไปให้ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นอย่างต่ำ (ปรากฏการณ์ด้านร้ายจากราหูค้นทรัพย์ดวงเมือง) ซึ่งผลก็ออกมาแล้วว่าเกิดความวุ่นวายขายกระจาดในเมืองด้วยอาการเกิดของโควิด-19 ผสมโรงกับสารพัดม็อบสามนิ้วในนามกลุ่มต่างๆ รวมทั้งคณะราษฎร 2563 ที่เกิดจากในเมืองเองไม่ใช่ศึกจากภายนอก (พระอังคาร 3 ดาวประจำชีพเมือง-เป็นกาลกิณีจรช่วยพระราหูจร 8 บีบเมือง) แต่ในที่สุดก็ค่อยๆ แผ่วไป (พระอังคารกาลิกิณีจรเดินอยู่ในภพวินาสน์)

ผู้เขียนเชื่อว่าประมาณปีใหม่ 2564-24 กุมภาพันธ์ 2564 จะเกิดการท้าทายกันขนาดใหญ่ เพื่อทดสอบตบะบารมีผู้ใหญ่-ผู้มีอำนาจในเมืองอีกรอบ ก่อนกระแสจะค่อยๆ วูบไป (พระอังคารกาลกิณีจร 3 เข้าไปเดินในราศีพฤษภได้มาตรฐานปรเกษตรราชาโชค)

4.เดินหน้าสู่ช่วงค่อยๆ เป็นปีทองด้านเศรษฐกิจโดยรวมตั้งแต่วันเกิดเมือง วันที่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นไป-21 เมษายน 2565 (เมืองอายุเต็ม 239 ย่างเข้า 240 ปี ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์-พระศุกร์ดาวเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ของประเทศเป็นศรีจรหนึ่งปี)

ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านหลับตาเทียบเคียงสถานการณ์ที่ กำลังจะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์รอบนี้ กับคราวราหูค้นทรัพย์เมืองในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี คราวนั้นก็เกิดเรื่องยุ่งยากจากการลดค่าเงินบาทที่ถูกต่อต้านโจมตี แต่ครั้น เมื่อทำในสิ่งที่ต้องทำแล้ว ผ่านไปประมาณปีเศษเศรษฐกิจกิจไทยเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นจากการส่งออก และนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศ จนไทยเกือบได้เป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย

วาระประมาณ 21 เมษายน 2564 หากเทียบเคียงในอดีตแล้ว คือ ช่วงที่เราจะเริ่มได้เห็นอะไรดีๆ ทางเศรษฐกิจจากการที่รัฐบาลได้ลงทุนลงแรงด้านโครงสร้างพื้นฐาน-ผลักดันประเทศสู่ความทันสมัย และ คาดว่าจะเป็นไปอีกหลายปี

โดยสิ่งที่คาดหมายไว้สำหรับปี 2564 ต่อเนื่องถึงวันเกิดเมืองปี 2565 คือ เศรษฐกิจที่จะไม่เหมือนเดิม เช่น

โครงสร้างพื้นฐานประเทศเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่-อันดับของประเทศในโลกเปลี่ยนแปลง-พื้นฐานตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงจะได้เห็นการทำสถิติใหม่ๆ เล่นกันในระดับใหม่-การติดต่อสื่อสารโทรคมนาคมเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน-ราคาที่ดินเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญพอๆ กับภาคป่าไม้และเกษตรกรรม-กิจกรรมด้านสุขภาพและการศึกษาโดดเด่นพัฒนาสู่การเป็นฮับ-สมบัติชาติที่แฝงเร้นหรือหายไปหรือถูกลืมอยู่อาจถูกค้นพบและนำมาใช้คล้ายๆ คนไปหาปลาเจอขุมทอง-ภาคการเงินปรับเจ็บตัว-ปรับตัวขนานใหญ่จนฟื้น ฯลฯ

สรุปสำหรับตอนนี้คือ การเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติใหญ่ในเมืองยังจะมีต่อไป-เตรียมพร้อมสู้เพื่อปกป้องอุดมการณ์สถาบันหลักของชาติ-และไม่ว่าการเมือง-บ้านเมืองและจิตใจคนไทยจะถูกเขย่าขนาดไหนก็ตาม ปีใหม่เราจะเริ่มได้เห็นแววดีทางเศรษฐกิจโดยรวม (มากกว่าร้าย)…