โหรฟองสนาน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ระบุเกณฑ์คำทำนายภาพรวมดวงเมือง ปี 2564 ที่กำลังจะมาถึง ระบุว่า ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ ดาวจร และทักษาจร
พระมฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)
พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีพฤษภ ตลอดปี 2564
พระพฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีมังกรต้นปี-9 พฤศจิกายน 2564 (มีเดินผิดปกติข้าราศีระหว่างมังกร-กุมภ์-มังกร)
ย้ายเข้าไปเดินในราศีกุมภ์ระหว่าง 9 พฤศจิกายน 2564-สิ้นปี 2564
พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีมังกรตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ)
ทักษาเดิมเมืองตกภูมิอาทิตย์ ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์ ระหว่าง 21 เมษายน 2564-21 เมษายน 2565
ใกล้จะส่งท้ายปีเก่า 2563 เข้าสู่ปีใหม่ 2564 แล้วต่อไปนี้ผู้เขียนจะได้คาดหมายปรากฏการณ์สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ตลอดปี 2564 ทั้งร้าย-ดี ดังนี้
พื้นฐานดวงชะตาเดิมเมืองรัตนสินทร์ กำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 ลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ เมืองเกิดท่ามกลางภัยสงครามและความแตกแยกภายในคณะผู้หาฤกษ์กำเนิดเมืองจึงออกแบบให้รอดจากภัยขนาดใหญ่ทุกสถานการณ์ แต่สิ่งที่แถมมาเป็นวาสนาของเมืองคือคนชอบทะเลาะกัน และหากมีวิกฤติหรือความยุ่งยากคราวใดจะมีโอกาสดีๆ ตามมา ในทางตรงกันข้ามหากเมืองนิ่งๆ ต้องระวังเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ตัวอย่างเช่น สยามรอดจากสงครามเก้าทัพชนิดที่ขณะทำศึกอยู่แทบไม่เห็นทางชนะ เมื่ออริราชศัตรูยกทัพกลับไปแล้วราชอาณาจักรสยามแผ่นกว้างไกลมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันมากมาย เป็นต้น
เหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดในเมืองปี 2564
1.ในเมืองยังมีการปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงใหญ่ต่อไปแต่ไม่ใช่หรือใกล้เคียงการปฏิวัติสยาม 2475 – เพราะเมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของมฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ-การปฏิวัติสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่-โรคระบาดขนาดใหญ่-การทำหรือเนรมิตสิ่งที่ทันสมัยล้ำเลิศ หากมากเกินไปคือวิตถาร ทับลัคนาเมืองต่อไปตลอดปี 2564 (มีเดินผิดปกติ) โดยอาการนี้เป็นมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 แล้ว
ผลของมฤตยูจรทับลัคนาดวงเมือง รวมทั้งอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง (๑) ซึ่งเป็นตัวแทนการเมือง-ผู้มียศศักดิ์-ตำแหน่ง-ผู้ทำ และตัวแทนจิตใจคนไทยนี้ ผู้เขียนยังยืนยันเหมืองเดิมว่า ครั้นกรกฎาคม 2565 เมื่อมฤตยูจรย้ายออกไปจากราศีเมษแล้ว เรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ขณะนี้ที่ยังไม่ถึงกรกฎาคม 2565 เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในเมืองแล้ว ทั้งการเปลี่ยนรัชกาล-สมาชิกราชวงศ์ปรับเปลี่ยนสู่ยุค 4.0-5.0-รถไฟฟ้า-รถไฟความเร็วสูง-รถไฟรางคู่-อีอีซี-ซื้อขายของออนไลน์-และสำคัญคือ ไทยกำลังจะพัฒนาเป็นฮับด้านสุขภาพจากสถานการณ์โควิด-19 ฯลฯ
และย้ำเหมือนเดิม การมาทับลัคนาเมืองของมฤตยูจรรอบนี้ถึงจะมีความพยายามย้อนยุค-ย้อนเหตุการณ์ขนาดไหน สถานการณ์ก็ไม่ใกล้เคียงกับคราวปฏิวัติ 2475 (จะมีเกณฑ์อธิบายทางโหรยืนยันต่อไป)
2.เตรียมลับดาบไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 เพื่อต่อสู้ระยะยาวทางอุดมการณ์-สถาบันสำคัญของชาติไปอีกเกือบยี่สิบปี เหตุด้วยอย่างที่เคยบอกมาแล้ว คือ การเกิดขึ้นของยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มมาตั้งแต่ 2 มีนาคม 2562 ที่ผู้เขียนเรียกว่ายุค 4.0 ขึ้นไป แล้วจะกินเวลาประมาณยี่สิบปีนั้น จะมีการต่อสู้ทางอุดมการณ์-อุดมคติสำคัญในเมืองเหมือนในอดีต คือ การเกิดการของขบวนการแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ และลัทธิคอมมิวนิสต์
บัดนี้-ยุคนี้เริ่มการต่อสู้แล้วคืออุดมการณ์ประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คาดว่าจะต้องสู้-ปรับตัวกันไปอีกยาว
3.ตีฝ่าด่านความวุ่นวายท้าทายในเมืองอีกรอบประมาณต้นปี-อย่างต่ำ 24 กุมภาพันธ์ 2564
เกณฑ์นี้ผู้เขียนเคยเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันพาเมืองตีฝ่าช่วงสำคัญ คล้ายๆ เมืองเข้าที่คับขันระหว่าง 10 กันยายน 2563 ให้ไปให้ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นอย่างต่ำ (ปรากฏการณ์ด้านร้ายจากราหูค้นทรัพย์ดวงเมือง) ซึ่งผลก็ออกมาแล้วว่าเกิดความวุ่นวายขายกระจาดในเมืองด้วยอาการเกิดของโควิด-19 ผสมโรงกับสารพัดม็อบสามนิ้วในนามกลุ่มต่างๆ รวมทั้งคณะราษฎร 2563 ที่เกิดจากในเมืองเองไม่ใช่ศึกจากภายนอก (พระอังคาร 3 ดาวประจำชีพเมือง-เป็นกาลกิณีจรช่วยพระราหูจร 8 บีบเมือง) แต่ในที่สุดก็ค่อยๆ แผ่วไป (พระอังคารกาลิกิณีจรเดินอยู่ในภพวินาสน์)
ผู้เขียนเชื่อว่าประมาณปีใหม่ 2564-24 กุมภาพันธ์ 2564 จะเกิดการท้าทายกันขนาดใหญ่ เพื่อทดสอบตบะบารมีผู้ใหญ่-ผู้มีอำนาจในเมืองอีกรอบ ก่อนกระแสจะค่อยๆ วูบไป (พระอังคารกาลกิณีจร 3 เข้าไปเดินในราศีพฤษภได้มาตรฐานปรเกษตรราชาโชค)
4.เดินหน้าสู่ช่วงค่อยๆ เป็นปีทองด้านเศรษฐกิจโดยรวมตั้งแต่วันเกิดเมือง วันที่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นไป-21 เมษายน 2565 (เมืองอายุเต็ม 239 ย่างเข้า 240 ปี ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์-พระศุกร์ดาวเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ของประเทศเป็นศรีจรหนึ่งปี)
ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านหลับตาเทียบเคียงสถานการณ์ที่ กำลังจะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์รอบนี้ กับคราวราหูค้นทรัพย์เมืองในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี คราวนั้นก็เกิดเรื่องยุ่งยากจากการลดค่าเงินบาทที่ถูกต่อต้านโจมตี แต่ครั้น เมื่อทำในสิ่งที่ต้องทำแล้ว ผ่านไปประมาณปีเศษเศรษฐกิจกิจไทยเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นจากการส่งออก และนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศ จนไทยเกือบได้เป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย
วาระประมาณ 21 เมษายน 2564 หากเทียบเคียงในอดีตแล้ว คือ ช่วงที่เราจะเริ่มได้เห็นอะไรดีๆ ทางเศรษฐกิจจากการที่รัฐบาลได้ลงทุนลงแรงด้านโครงสร้างพื้นฐาน-ผลักดันประเทศสู่ความทันสมัย และ คาดว่าจะเป็นไปอีกหลายปี
โดยสิ่งที่คาดหมายไว้สำหรับปี 2564 ต่อเนื่องถึงวันเกิดเมืองปี 2565 คือ เศรษฐกิจที่จะไม่เหมือนเดิม เช่น
โครงสร้างพื้นฐานประเทศเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่-อันดับของประเทศในโลกเปลี่ยนแปลง-พื้นฐานตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงจะได้เห็นการทำสถิติใหม่ๆ เล่นกันในระดับใหม่-การติดต่อสื่อสารโทรคมนาคมเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน-ราคาที่ดินเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญพอๆ กับภาคป่าไม้และเกษตรกรรม-กิจกรรมด้านสุขภาพและการศึกษาโดดเด่นพัฒนาสู่การเป็นฮับ-สมบัติชาติที่แฝงเร้นหรือหายไปหรือถูกลืมอยู่อาจถูกค้นพบและนำมาใช้คล้ายๆ คนไปหาปลาเจอขุมทอง-ภาคการเงินปรับเจ็บตัว-ปรับตัวขนานใหญ่จนฟื้น ฯลฯ
สรุปสำหรับตอนนี้คือ การเปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติใหญ่ในเมืองยังจะมีต่อไป-เตรียมพร้อมสู้เพื่อปกป้องอุดมการณ์สถาบันหลักของชาติ-และไม่ว่าการเมือง-บ้านเมืองและจิตใจคนไทยจะถูกเขย่าขนาดไหนก็ตาม ปีใหม่เราจะเริ่มได้เห็นแววดีทางเศรษฐกิจโดยรวม (มากกว่าร้าย)…