ล่าสุด มีรายงานว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำลังประสบกับอุทกภัย โดยความเสียหายเบื้องต้นถึงขณะนี้ มีพื้นที่ประสบภัยได้รับผลกระทบและเสียหายเบื้องต้นจำนวน 15 อำเภอ
รวม 78 ตำบล 351 หมู่บ้าน 7 ชุมชน ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอชะอวด,จุฬาภรณ์,ทุ่งสง,เมืองนครศรีธรรมราช,พระพรหม,ร่อนพิบูลย์,ท่าศาลา,พิปูน,นาบอน,ลานสกา,สิชล,เฉลิมพระเกียรติ,เชียรใหญ่,นบพิตำ และอำเภอขนอม ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 47,939 คน 16,709 ครัวเรือน บ้านพักเสียหายบางส่วน จำนวน 8 หลัง (อ.นาบอน 1 หลัง , อ.ท่าศาลา 7 หลัง) สถานศึกษา : ได้รับผลกระทบ 15 แห่ง ประกาศหยุดการเรียนการสอน 6 แห่ง วัด/มัสยิด/โบสถ์อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ความเสียหายด้านการเกษตร ด้านพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ 67 ตำบล 624 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรประสบภัย 291,156 ไร่ แบ่งเป็น นาข้าว 28,278 ไร่ พืชไร่ 9,415 ไร่
ซึ่งมีรายงานล่าสุดถึงพื้นที่ประสบภัยคือ
– ร่อนพิบูลย์ แยกสามร้อยกล้า ขาเข้าเมือง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
– ช้างกลาง มีต้นไม้ล้มขวางถนนไปทางสะพาน (เขาธง)
– ถ้ำพรรณรา มีน้ำท่วมขังบนผิวจราจร
– วังก้อง ลานสกา รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
– เส้นพรหมโลก พรหมคีรี มวลน้ำมีความสูง 50 ซม.
– เบญจม-นาพรุ ตลาดนาชุม ศูนย์ราชการนาสาร รถทุกประเภทไม่สามารถสัญจรได้
– หน้าราม รถทุกประเภทไม่สามารถสัญจรได้
– บ้านตาล-ราชภัฏ ใช้ได้ช่องทางเดียว (ขาออก)
– หน้า ม.ราชภัฏ น้ำกำลังขึ้น ประมาณ 15.9 มม.
– สะพานราเมศวร์ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ รถใหญ่ (โฟร์วิว) ระวังหลุม
– ถนนพัฒนาการคูขวาง-ราชดำเนิน รถทุกประเภทไม่สามารถสัญจรได้ แนะนำให้ใช้เส้นทางถนนเอกนคร/ประตูลอด
(มาจากอ้อมค่ายใช้เส้นทางเอกนคร มาจากหัวถนนใช้เส้นทางประตูลอด)
– เส้นทางหัวหลาง ยังใช้ได้
– โค้งศรีทวี รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ รถยนต์ต้องใช้อย่างระมัดระวัง
– หมู่บ้านเอื้ออาทร สะพานยาว รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
– ต.ท่าซัก ต.ปากนคร ท่วมทุกบริเวณ โดยเฉพาะวัดคงคาเลียบ
– สี่แยกหนองหว้า รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
– สนามบิน รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์วิทยุสื่อสารเมืองนคร/191นคร/VRป้องกันภัยพิบัติ/ศูนย์วิทยุเจดีย์งาม(ข่ายเทศบาลนครนครศรีธรรมราช)
ขอบคุณ cr.อามลายย
ส่วนสถานการณ์ในภาพรวมถึงขณะนี้ ยังคงมีรายงานฝนตกและตกหนักในเกือบทุกพื้นที่ ประกอบกับปริมาณน้ำฝนสะสมของจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วง 7 วันที่ผ่านมา (26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2563) หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมเฉลี่ยเกิน 150 มิลลิเมตร และปริมาณน้ำในพื้นที่รับน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีสถานการณ์น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ โดยทางจังหวัดได้แจ้งกำชับทุกหน่วย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แจ้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมตลิ่งเตรียมอพยพและติดตามสถานการณ์และอพยพทันทีที่มีประกาศจากทางราชการ