จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ ประกาศความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเพิ่มความเข้มข้นในการรับมือการชุมนุม โดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่ ดำเนินคดีต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ที่สอดคล้องกับหลักการสากล
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแถลงการณ์ ว่า เป็นการเตือนประชาชนให้รับทราบว่ารัฐบาลจำเป็นใช้กฎหมายทุกฉบับ ซึ่งที่ผ่านอาจมีการอะลุ้มอล่วยกันบ้าง แต่ขณะนี้เกินเลยไปมากแล้ว
“จึงคิดว่าสิ่งที่ตนรับมาจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เขายอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ ดังนั้นเราต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่และเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ต้องทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว ดังนั้น ใครที่ไม่ทำความผิดก็ไม่น่าจะเดือดร้อนแต่คนที่ดูอยู่เขาก็จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในกฎหมายฉบับนี้มาจำนวนมาก
จึงต้องฟังเขาด้วยไม่ใช่ฟังข้างใดข้างหนึ่ง ดังนั้นทุกคนต้องกลับมาในเส้นทางปกติดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม วันนี้การบริหารราชการแผ่นดินก็กำลังเดินหน้าเรื่องเศรษฐกิจระดับฐานรากที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์”
ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว Chuchart Srisaeng ระบุว่า แถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 มีข้อความตอนหนึ่งว่า โดยจะใช้บังคับกฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่ ดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่กระทำผิด ฝ่าฝืนกฎหมาย เพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยจะดำเนินคดีต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
เท่านั้นแหละบรรดาวัวสันหลังหวะทั้งหลาย รวมทั้ง ส.ส. และพรรคการเมืองที่คอยสนับสนุนม็อบอยู่ข้างหลัง ต่างก็ออกมาด่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กันอย่างพร้อมหน้า
ส.ส.และพรรคการเมืองต้องรู้อำนาจหน้าที่ของตนเอง ถ้าไม่ต้องการให้กฎหมายฉบับใด มาตราใด มีผลใช้บังคับ ก็เสนอยกเลิกได้เลย เหตุใดจึงไม่ดำเนินการหรือไม่กล้า ?