หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ ตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวยังรวมไปถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียและกระทรวงการคลังรัสเซีย โดยมีผลบังคับใช้ในทันที ทั้งนี้จะมีการอายัดทรัพย์สินของเศรษฐีรัสเซีย รวมไปถึงตัวลูกสาวของปูตินด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สหรัฐจะนำเงินดังกล่าวไปช่วยยูเครน
ล่าสุดทางด้านนายวยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาดูมาของรัสเซีย ออกมาเสนอให้รัสเซียยึดทรัพย์ของชาติตะวันตก เพื่อตอบโต้พฤติกรรมที่เขามองว่าเป็นการขโมยทรัพย์สินเงินทองของรัสเซีย
ข้อเสนอของนายโวโลดินมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ได้เสนอให้มีการโอนเงินที่ถูกยึดไว้ของบรรดามหาเศรษฐีรัสเซียไปให้กับยูเครน
นายโวโลดินกล่าวว่า เรือยอชต์และวิลล่าหรูของมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจในรัสเซีย ไม่ได้มีส่วนช่วยในการพัฒนารัสเซีย แต่ดูเหมือนว่าตะวันตกกำลังจะเข้ามาขโมยเงินของรัสเซียไปอย่างง่าย ๆ
“มันเป็นการชอบธรรมที่จะใช้มาตรการเช่นเดียวกันกับธุรกิจต่าง ๆ ในรัสเซีย ที่เจ้าของเป็นพลเมืองของประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย ซึ่งได้ใช้มาตรการในการยึดทรัพย์สินของชาวรัสเซีย รายได้จากการขายทรัพย์สินเหล่านั้นควรนำไปใช้พัฒนาประเทศของเรา เพราะมันได้มีการสร้างแบบอย่างที่อันตรายขึ้น และเราควรตอบโต้กลับเหมือนกับบูมเมอแรง”
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกมาเตือนหลายครั้งว่ารัสเซียจะตอบโต้กลับในรูปแบบเดียวกัน แต่จนถึงขณะนี้ มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจที่รัสเซียดำเนินการมีเพียงการยุติการส่งก๊าซให้กับโปแลนด์และบัลแกเรีย รวมถึงเรียกร้องให้ชาติตะวันตกจ่ายค่าพลังงานให้กับรัสเซียเป็นเงินสกุลรูเบิลเท่านั้น
อย่างไรก็ตามน่าจับตามองว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ รัสเซียอาจจะใช้แผนดังกล่าวเป็นตัวเลือกสำคัญ ในการตอบโต้กลับไปยังสหรัฐฯ และจะสะเทือนถึงชาติตะวันตกไม่น้อย หากรัสเซียทำการยึดทรัพย์คืนในวิธีเดียวกัน
